กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) ปลื้ม ผ่านมาตรฐาน FTSE Global Index เข้าคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap มีผล 18 ก.ย. นี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพธุรกิจแกร่ง ด้าน CEO “ชัชพล ประสพโชค” ระบุเป็นการปูทางในการสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างอัตราการเติบโตในทุกมิติในระยะยาว บวกกับระดับ P/E ที่ 12.68 เท่า ซึ่งน่าดึงดูดต่อการลงทุนเมื่อเทียบกับระดับ P/E ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงการได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap ซึ่งเป็นดัชนีหลักทรัพย์ระดับนานาชาติ สำหรับครึ่งหลังของปี 2563 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ถือว่าเป็นการเพิ่มความน่าดึงดูดของตัวหุ้นและความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
UAC รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือก ภายหลังที่บริษัทฯได้มีการย้ายไปซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาเพียง 7 เดือนเท่านั้น และมองว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัทได้ในระยะยาว และดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น เนื่องจากระดับ P/E ในปัจจุบันอยู่ที่ 12.68 เท่า ซึ่งถือว่าน่าสนใจสำหรับการลงทุน เมื่อเทียบกับระดับ P/E ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
แม้ว่าจะประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 719 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8 % เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน และ Gross Margin เพิ่มขึ้นจาก 10.7% มาอยู่ที่ 21.2% ขณะที่ EBITDA งวด 6 เดือนแรกปี 2563 อยู่ที่ 223 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นกว่า 63.7% ของเป้าหมายในปีนี้
“ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของ UAC ในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นในการรักษาระดับการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถทำ EBITDA ได้ตามเป้าทั้งปีที่วางไว้ 350 ล้านบาท พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ “25 ปี UAC มุ่งมั่นพลังงานที่ยั่งยืน” จากการขยายการลงทุนทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อสร้างอัตราการเติบโตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจ Trading พลังงานทดแทน และโรงงานผลิตในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์”