กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาของปีนี้ผ่านไปรวดเร็วมาก พริบตาเดียวเราก็ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 กันแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ สถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เราต้องใช้ชีวิต แบบ “การ์ดห้ามตก” ถามว่าทุกคนเครียดกันหรือไม่… มั่นใจว่าไม่มีใครตอบว่าไม่เครียด เมื่อสถานการณ์ โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น สังเกตได้จากห้างร้านต่างๆ กลับมาให้บริการเช่นเดิม ผู้คนออกไปทานอาหาร นอกบ้าน เดินเล่นตามห้างสรรพสินค้ากันมากขึ้น ใช้ชีวิตในสังคมได้ 'เกือบ’ เป็นปกติ ส่วนหนึ่งเพราะว่าทุกคนอยากคลายเครียด วัตสัน ประเทศไทย ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงาม อันดับหนึ่งในประเทศไทย อยากให้ลูกค้าได้คลายเครียด มีความสุขและยิ้มได้ จึงส่ง “Retail therapy” มัดใจลูกค้าด้วย #ชิ้นที่สอง1บาท ปรากฏการณ์โปรโมชั่นสุดคุ้ม เพื่อส่งความสุข สร้างความสนุกให้สายช้อปสอยไอเทมที่หมายปองแบบจุใจตลอดทั้งเดือน
Retail Therapy : ลดเครียด - เติมสุข - กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
จิตวิทยาแห่งการช้อปปิ้งช่วยให้ชีวิตสร้างภาวะเชิงบวกของจิตใจ เพราะว่าจุดมุ่งหมายของ Retail therapy คือความสบายใจ เราจะมีความสนุกและได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์จากการได้ Mix & match สินค้า ช่วงเวลาที่เรากำลังเลือกซื้อสินค้าให้คนที่บ้าน เพื่อนร่วมงานหรือแม้กระทั่งคนรัก ทำให้เราได้คลายเครียดและมีความสุขไปพร้อมๆ กัน ซึ่งที่ร้านวัตสัน มีสินค้าที่หลายหลาย เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นของขาช้อป ทำให้แบรนด์มั่นใจว่าลูกค้าสามารถคลายเครียดและยิ้มได้ทุกครั้งเมื่อมาช้อปที่วัตสัน
Put a smile on customer face เพราะทุกรอยยิ้ม ที่เกิดขึ้นเราอยากให้ลูกค้ามีความสุข
นอกจากความสนุกที่ได้เลือกช้อปแล้ว สิ่งที่ควบคู่กันมา และขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การสื่อสารที่ตรงจุดการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ที่เรายังคงความคิดสร้างสรรค์โดยต่อยอดการใช้ 'ภาษาประจำภาค’ มาเป็นองค์ประกอบหลักในการสื่อสาร พร้อมทีเด็ดของแต่ละวัน ที่ทางแบรนด์ได้นำส่ง “สวัสดีวันบาท” มาเสิร์ฟ สำหรับ Instagram ได้มีการสร้าง Engagement กับกลุ่มเป้าหมาย ผ่าน IG Story โดย Customize filter สนุกสนาน ผ่านแต่ละวัน ให้ลูกค้าได้แชร์ผ่านช่องทางของตัวเอง เรียกได้ว่า ได้ทั้งรอยยิ้ม และได้ทั้งของที่ถูกใจแน่นอน ทั้งหมดจึงทำให้แบรนด์มี 'Human Touch’ มีความใกล้ชิดกับลูกค้า และสร้างการรับรู้ให้กับ #ชิ้นที่สอง1บาท ปรากฏการณ์โปรโมชั่นสุดคุ้ม ครั้งสุดท้ายของปี
สร้างความแตกต่างด้วย Creative promotion
การทำโปรโมชั่นในแบบฉบับเดิมต้องเปลี่ยนไป เพราะ การทำโปรโมชั่นแคมเปญแบบฉีกแนวหรืออย่างสร้างสรรค์ (Creativity Promotion) จะกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดอีกมิติที่สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่นเดียวกับ #ชิ้นที่สอง1บาท ที่ครั้งนี้ วัตสัน เน้นภาพของความสนุก เพิ่มสีสันในการสื่อสาร เพื่อสร้างรอยยิ้มให้ลูกค้า และที่สำคัญ คือ วัตสันเข้าใจว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายครัวเรือน ต้องมีการรัดเข็มขัดเรื่องค่าใช้จ่าย หรือหากจำเป็นต้องช้อปปิ้ง มั่นใจว่าหลายคนจะคำนึงถึงความคุ้มค่าและคุ้มราคาเป็นอันดับต้นๆ วัตสันอยากให้ทุกคนช้อปได้อย่างมีความสุข มีสติโดยไม่ต้องมี stress spending หรือการใช้จ่ายที่นำไปสู่ความเครียดที่มากกว่าเดิม แบรนด์จึงส่ง #ชิ้นที่สอง1บาท ปรากฏการณ์โปรโมชั่นสุดคุ้มครั้งสุดท้ายของปี ที่จัดหนักด้วยดีลดีๆ ให้ลูกค้าสามารถคลายเครียดและยิ้มได้ทุกครั้งเมื่อมาช้อปที่วัตสัน