![สคร.12 สงขลา เตือน เล่นน้ำทะเล ระวังแมงกะพรุนไฟ]()
กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12
จังหวัดสงขลา เตือนประชาชนที่ลงเล่นน้ำทะเลระมัดระวังแมงกะพรุนไฟ โดยเฉพาะในช่วงมรสุมหรือหลังฝนตกใหม่ๆ แนะไม่ควรลงเล่นน้ำหากพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน และหากพบผู้ที่สงสัยถูกพิษแมงกะพรุน ห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นจากการกระจายของพิษแมงกะพรุน
แมงกะพรุนไฟ Chrysaora chinensis ลักษณะทั่วไปคล้ายร่ม ลำตัวสีขาว สีส้มหรือหลากหลายสีสัน และหนวดเป็นสีแดงสดหรือสีส้ม ด้านบนมีจุดสีขาวอยู่ทั่วไป สังเกตได้ง่าย ปากและหนวดยื่นออกมาทางด้านล่างหรือด้านท้อง เส้นหนวดมีจำนวนมากเป็นสายยาวกว่าลำตัว พบในทะเลทั้งบริเวณชายฝั่งและไกลฝั่ง ในช่วงฤดูมรสุมอาจพบได้ในเขตน้ำกร่อย พิษจากแมงกะพรุนไฟทำให้บริเวณที่สัมผัสมีอาการปวดแสบปวดร้อน
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12
จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์การบาดเจ็บจากแมงกะพรุนไฟใน
จังหวัดสงขลา พบว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุข
จังหวัดสงขลา พบผู้บาดเจ็บจากการสัมผัสพิษแมงกะพรุนไฟ จำนวน 21 ราย เป็นเพศชาย ร้อยละ 76.19 พบมากในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ร้อยละ 80.95 ผู้ป่วยมีภูมิลำเนาจากอยู่ในพื้นที่
จังหวัดสงขลาและต่างพื้นที่ โดยสัมผัสแมงกะพรุนไฟ Chrysaora chinensis ตำแหน่งที่สัมผัสพิษแมงกะพรุนส่วนใหญ่ คือบริเวณเท้าและมือ เนื่องจากการลงไปเล่นน้ำทะเล บริเวณหาด ชลาทัศน์, หาดเก้าเส้ง, หาดสมิหลา และหาดบ่ออิฐ อำเภอเมือง
จังหวัดสงขลา
“สคร.12 สงขลา เน้นย้ำผู้ปกครองให้คำแนะนำบุตรหลาน ไม่ควรลงเล่นน้ำหากพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน หากลงเล่นน้ำทะเล ขอให้สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแนบตัว”
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากได้รับบาดเจ็บจากพิษแมงกะพรุน แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนอย่างน้อย 30 วินาที และให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ เมื่อพบผู้บาดเจ็บจากการถูกพิษแมงกะพรุนห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำเปล่า เหล้า โซดา หรืออื่นๆ ไปเทราดเป็นอันขาด เนื่องจากจะกระตุ้นพิษให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ห้ามถูหรือขยี้เพราะจะทำให้พิษยิ่งแพร่กระจายมากขึ้น ที่สำคัญเลี่ยงการใช้เทคนิคพันรัดแน่นด้วยผ้ายืด และอย่าเก็บแมงกะพรุนที่ตายแล้วด้วยมือเปล่าหรือนำมาเล่น เพราะต่อมพิษยังสามารถปล่อยพิษได้ หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422