กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจครบ 128 ปี ในประเทศไทย ตอกย้ำพันธกิจ 'Powering Progress Together’ โดยความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีจากการมีพลังงานที่สะอาดขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม ย้อนกลับไปปี พ.ศ. 2435 เมื่อเรือบรรทุกน้ำมันมิวเร็กซ์ของเชลล์เข้าเทียบท่าที่กรุงเทพฯ เชลล์เป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศไทย โดยเป็นผู้นำเข้าน้ำมันก๊าดเป็นครั้งแรก หลังจากนั้น บริษัทได้ก่อตั้ง บริษัท เชลล์ทรานสปอร์ตแอน เทรดดิ้ง โดยมีตราหอยเป็นสัญลักษณ์ ก่อนที่จะเดินหน้าธุรกิจพลังงานรูปแบบต่างๆ ในประเทศ อาทิ การขุดเจาะแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ โรงกลั่นน้ำมัน และธุรกิจคลังน้ำมัน เชลล์ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ เปลี่ยนผ่านความเป็นเจ้าของ และส่งมอบเทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงานสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในยุคนั้นถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของการวางรากฐานความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และใช้ชื่อเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันเชลล์เดินหน้าตอบสนองความต้องการด้านพลังงาน และมีบทบาทสำคัญในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศไทย โดยเน้นการให้บริการที่เป็นเลิศ พร้อมบุกเบิกเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์คุณภาพ อาทิ น้ำมัน Shell V-Power น้ำมันเครื่อง Shell Helix น้ำมันเตา Shell FuelOil Extra และนวัตกรรมยางมะตอย Shell Bitumen FreshAir สำหรับทั้งลูกค้าภาคธุรกิจและผู้บริโภค
ในปีนี้ เชลล์ได้เปิดตัวแนวคิดใหม่ #EnergyAmbition “พลังงานดี ชีวิตมีสุข” ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานหลักของเชลล์ในช่วงปี พ.ศ. 2563-2565 ที่สภาพเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไป เพื่อเดินหน้าการลงทุนในธุรกิจพลังงาน การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และการสนับสนุนช่วยเหลือสังคม โดยการส่งเสริมความร่วมมือและสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงในระดับโลก เช่น การขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization) และการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล (Digitalization) กำลังทำให้รูปแบบของการคมนาคมขนส่งในปัจจุบันแตกต่างไปจากเดิม โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2593 จำนวนประชากรโลกจะทะยานขึ้นถึง 9 พันล้านคน และจะมีจำนวนรถยนต์ที่วิ่งบนถนนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากจำนวน 1 พันล้านคันในปัจจุบัน เชลล์ ประเทศไทย ได้เตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายนี้ โดยบริษัทกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการดำเนินงานลง 20% ภายในปี พ.ศ. 2568 และมุ่งสู่การเป็นบริษัทพลังงานที่ชดเชยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ (Net Carbon Footprint) ภายในปี พ.ศ. 2593 บนพื้นฐานการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
ปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในการก้าวสู่ปีที่ 129 เชลล์ ในฐานะ 'Trusted Partner’ หรือพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ มองหาโอกาสในการส่งมอบพลังงานรูปแบบต่างๆ รวมถึงพลังงานทางเลือก เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดกระบวนการ อีกทั้งทำความเข้าใจ ปรับตัว และรับมือกับความต้องการด้านพลังงานท่ามกลางสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เราตระหนักถึงพันธกิจของเราในการส่งมอบพลังงานที่สะอาดขึ้นควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน สำหรับเชลล์ พลังงานที่ดีและบริการที่มีประสิทธิภาพ คือ นวัตกรรมพลังงานที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก พร้อมสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน ทั้งในวันนี้และอนาคต”
ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่เชลล์อยู่เคียงข้างสังคมไทย จวบจนปัจจุบันในภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เชลล์สานต่อเจตนารมย์การเป็นพันธมิตรที่ไว้ใจได้ในทุกพื้นที่ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ เชลล์ทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชน สนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน โครงการต่างๆ อาทิ “เชลล์เติมสุข” โครงการภายใต้แนวคิด Community Skill Enterprise Development (CSED) ที่เน้นการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและชุมชนผู้สมควรได้รับโอกาส ผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทักษะอาชีพ โครงการ “Road Safety” รณรงค์ความปลอดภัยและช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงโครงการ “Access to Energy” ซึ่งเป็นแนวคิดในการเข้าถึงพลังงานที่ยั่งยืน โดยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเฉพาะสำหรับชุมชนในพื้นที่ห่างไกล