กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รุกงานบริหารโครงการที่อยู่อาศัย ตั้งเป้าครองเบอร์หนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งงานบริหารที่พักอาศัยกว่า 250 โครงการ การันตีผลงานลูกค้าใช้งานต่อเนื่องมากกว่า 20 ปีเผย Customer Insight คนรุ่นใหม่ยุค New Normal เลือกซื้อที่อยู่อาศัย เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายเป็นอันดับต้นๆชูกลยุทธ์ PLUS IN YOUR AREA อยู่ตรงไหนก็อุ่นใจ เมื่อมีพลัสฯ เปลี่ยนภาพนิติบุคคลที่ดูแลเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง สู่การดูแลที่เข้าถึงห้องพักอาศัย โดยได้เปิดตัวบริการใหม่คือ “In-room Service” ต่อยอดการดูแลงานช่างเพิ่มเติมในห้องพักอาศัย เริ่มให้บริการในโครงการนำร่องแล้วในเดือนกันยายนนี้
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าในปี 2563 นี้ พลัสฯ ได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดโครงการใหม่ ด้วยการพัฒนางานบริหารอาคารที่พักอาศัยซึ่งธุรกิจนี้เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของพลัสฯ ที่เติบโตมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี ด้วยพอร์ตที่บริหารอยู่กว่า 250 โครงการ โดย พลัสฯ เป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ TOP3 ของผู้ให้บริการในธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ และได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า มีโครงการที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ปีขึ้นไป สะท้อนถึงความเชื่อใจและไว้ใจในการบริการด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งพลัสฯ ยังคงมุ่งมั่นปรับยกระดับงานบริการเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าหมายในการก้าวสู่เบอร์หนึ่งในอนาคต
เมื่อเร็วๆ นี้ พลัสฯ ได้ทำการสำรวจ Customer Insight เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งที่ผ่านมาผู้ซื้อที่อยู่อาศัยนั้นจะพิจารณาจากปัจจัยด้านทำเล คุณภาพโครงการ ชื่อเสียงบริษัทผู้พัฒนาโครงการ และราคา แต่เมื่อถึงยุค New Normal ความต้องการของคนซื้อที่อยู่อาศัยก็มีความต้องการเจาะลึกลงรายละเอียดมากขึ้น และหนี่งในนั้นคือบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ ข้อนี้เริ่มเห็นการให้น้ำหนักชัดขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ จากการที่ผู้ซื้อต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น การติดต่อสื่อสารกับทีมบริหารจัดการโครงการหรือทีมนิติบุคคลจึงเกิดขึ้นบ่อยกว่าช่วงเวลาปกติ ซึ่งงานบริหารจัดการโครงการเป็นบริการหลังการขายที่สำคัญที่มีผลต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งจากการที่พลัสฯสำรวจลูกค้าพบว่า ปัจจัยในการเลือกบริษัทบริหารจัดการนั้น ในเรื่องของความเป็นมืออาชีพ ทีมพนักงานมีมนุษยพันธ์ Service-minded ที่ดี ตลอดจนมีการดูแลระบบความปลอดภัย และเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ เป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ลูกค้าให้ความสำคัญ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้พลัสฯ ค่อนข้างโดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการอยู่ค้าอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็พบว่า ปัจจัยเรื่องการช่วยเหลือ ดูแล แก้ไขปัญหาด้านงานช่างซ่อมแซม ก็เป็นปัจจัยรองลงมา ที่ลูกค้าต้องการจากบริษัทบริหารจัดการโครงการเช่นกัน จึงนำมาสู่กลยุทธ์ PLUS IN YOUR AREA อยู่ตรงไหนก็อุ่นใจ เมื่อมีพลัสฯ และล่าสุดได้เปิดบริการใหม่ ภายใต้ชื่อ In-room Service ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งงานนิติบุคคล ที่จะไม่จำกัดอยู่เพียงการดูแลส่วนกลางเท่านั้น แต่จะครอบคลุมไปถึงงานบริการภายในห้องพักของลูกบ้าน ซึ่งได้เริ่มให้บริการในโครงการนำร่องแล้วในเดือนกันยายนนี้
“บริการ “In-room Service” เป็นการพัฒนาต่อยอดจากเดิมที่เรามีช่างประจำโครงการอยู่แล้ว โดยได้ทำการฝึกอบรมทักษะด้านงานช่างให้เข้มข้นและมีมาตรฐานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะงานช่างที่พลัสฯ ได้ทำการสำรวจลูกบ้านว่ามีความต้องการให้นิติบุคคลเข้าไปช่วยดูแลหรือซ่อมแซมส่วนไหน ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มีประมาณ 25 รายการที่ลูกบ้านต้องการให้เข้าไปดูแลมากที่สุด พลัสฯ จึงมีการออกแบบลิสต์งานบริการดูแลงานช่างภายในห้องพัก และเทรนนิ่งทีมช่างเพื่อเตรียมพร้อมให้บริการอย่างครบถ้วนในมาตรฐานเดียวกัน โดยปัจจุบันได้ให้บริการแล้วใน 9 โครงการนำร่อง (บ้านเดี่ยว 4 โครงการ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ) ทั้งนี้ พลัสฯ มั่นใจว่าลูกบ้านจะได้รับบริการที่มีมาตรฐานครบครอบคลุมงานนิติบุคคลที่ดูแลด้วยใจจากทีมงานมืออาชีพ และบริการพิเศษอย่าง “In-room Service” จะเป็นมาตรฐานใหม่ให้งานนิติบุคคล ที่ไม่ใช่เพียงดูแลพื้นที่ส่วนกลาง แต่ยังครอบคลุมไปถึงบริการภายในพื้นที่พักอาศัย เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคต่อจากนี้ นอกจากนี้ พลัส ยังได้ทำรายการ Plus Living Hacks ใน Youtube โดยได้รวบรวม Tips ของงานช่างอาทิ การซ่อมแซม ดูแลรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ” นางสาวนฤมล กล่าว
อนึ่ง ธุรกิจ Property Management ของพลัสฯ เป็นธุรกิจที่โดดเด่นและมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 14% ต่อปี ซึ่งปัจจุบันพลัสฯ มีโครงการในพอร์ตที่ดูแลบริหารอยู่กว่า 250 โครงการ ด้วยพื้นที่กว่า 13,000,000 ตารางเมตร