วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๓๐ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานแถลงข่าวการประกวดบทภาพยนตร์ในโครงการประกวดบทภาพยนตร์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ประจำปี ๒๕๖๓ : คนไทยชีวิตปกติ วิถีใหม่ และแผนการส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยของกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยมี นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์
กราฟิกส์ไทย ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน ณ บริเวณโถง ชั้น ๑ กระทรวงวัฒนธรรม เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยให้เป็นอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้แนวคิด ?Content Thailand? หรือ ?ทีมประเทศไทย? ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฯ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยเติบโตขึ้น และมีความเข้มแข็งก้าวสู่ความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียน และเป็นหนึ่งใน ๕ ชาติชั้นนำของอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงของเอเชีย ได้แก่ จีน เกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น และไทย ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฯ เพิ่มขึ้น ๒๒๙,๑๖๙.๖๔ ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยให้มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพในระดับนานาชาติ วธ. จึงจัดทำ ?โครงการประกวดบทภาพยนตร์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ : คนไทยชีวิตปกติ วิถีใหม่? โดยจัดอบรมเขียนบทภาพยนตร์ เพื่อพัฒนาศักยภาพนักเขียนบทภาพยนตร์ไทยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-19) โดยต่อยอดการผลิตเป็นผลงานสื่อสร้างสรรค์ เข้ากับเหตุการณ์ สถานการณ์ปัจจุบัน แสดงถึงความสามัคคี การร่วมแรงร่วมใจของคนในชาติ ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมอบรมกว่า ๗๐ คน และผ่านการคัดเลือก ๑๗ คน และเหลือผลงานรอบสุดท้าย ๑๒ บทภาพยนตร์ โดยผู้ชนะเลิศได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล ๒๐๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ ๑. นายวันเฉลิม วัฒนวรกิจกุล จากเรื่อง สองขั้วคนละข้าง ๒. นางสาววรลักษณ์ กล้าสุคนธ์ จากเรื่อง Little Sister รัก...ไม่ต้องเว้นระยะ ทั้งนี้ บทภาพยนตร์ที่ชนะเลิศจะได้ต่อยอดผลิตร่วมกับสตูดิโอเป็นผลงานจริงเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศต่อไป
นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดและพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น วธ.ได้จัดทำแผนการส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยของกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบด้วย ๑.จัดทำ Website ฐานข้อมูลอุตสาหกรรมwww.contentthailand.com เพื่อเป็นฐานข้อมูลภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และบุคลากรในอุตสาหกรรมฯ ให้ผู้สนใจเจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศได้คัดเลือกผลงานและบุคลากรมาร่วมทำงาน โดยปีนี้จัดทำเป็น ๒ ภาษา คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และในปีหน้าจะเพิ่มภาษาจีน และภาษาอื่นๆ รวมทั้งจะพัฒนาให้เป็นพื้นที่นำเสนอผลงานและสร้างรายได้สำหรับบุคลากรรุ่นใหม่ที่ขาดพื้นที่การนำเสนอต่อไป ๒.โครงการสถาบันพัฒนาบุคลการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Content Thailand Academy) โดยจัดอบรมบุคลากรรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการ หรือบุคลากรมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มพูนองค์ความรู้ มีการประกวด แข่งขัน เปิดโอกาสนำเสนอต่อนักลงทุน โดยเป็นโครงการต่อเนื่องตลอดทั้งปี
และ ๓.โครงการสร้างภาพยนตร์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย ในบริบทของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-19) โดยร่วมมือกับทีมผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงกว่า ๑๐ คน มาพัฒนาฝีมือบุคลากรไทยที่ผลิตผลงานภาพยนตร์สั้น แอนิเมชันสั้น ให้เป็นผลงานที่มีคุณภาพ รวมทั้งเตรียมคัดเลือกผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของไทยร่วมผลิตผลงานภาพยนตร์สั้น ร่วมกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียงของ ๕ ชาติในเอเชีย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อทำเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเผยแพร่ในระดับนานาชาติอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปี อาทิ การนำศิลปิน ผู้ประกอบการไปนำเสนอภาพยนตร์ โครงการสร้างภาพยนตร์กับนักลงทุนและผู้ซื้อในต่างประเทศ (Roadshow) การจัดเทศกาลภาพยนตร์ และนิทรรศการด้านความคิดสร้างสรรค์ การสนับสนุนบุคลกรเข้าร่วมงานในต่างประเทศ ฯลฯ