จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการถุงมือทางการแพทย์เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก เป็นที่มาของการเปิดตัว บริษัท คิวบี เมดิคอล จำกัด โดยเป็นการร่วมทุนของ 2 พันธมิตรทางธุรกิจ ระหว่างนายธนาเดช ศิลปวิศวกุล วิศวกรหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงานและปิโตรเคมีมานานกว่า 10 ปี และนายรุจิภาส ธนภัทรชัยทัต บุตรชายคนโตของกลุ่มแต้ล้งฮั้ว (TLH) ในเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มีธุรกิจหลากหลายในภาคตะวันออก รวมถึงลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปด้วย
สำหรับนายรุจิภาส จบการศึกษาด้าน Hospitality Management Glion Institute of Higher Education จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่ามีลูกค้าต่างประเทศ ติดต่อให้ช่วยหาซื้อถุงมือจำนวนมาก เมื่อบวกกับตลาดที่มีความต้องการถุงมือในปริมาณที่สูงต่อเนื่อง จึงเล็งเห็นโอกาสของธุรกิจนี้
โดยทั้งคู่ต่างนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญที่มีมาผนึกกำลังกันสร้างโปรเจ็กต์ใหญ่ในครั้งนี้ ด้วยการทุ่มงบลงทุน 8,000 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตถุงมือยางสังเคราะห์หรือที่เรียกกันว่าถุงมือไนไตรล์ (Nitrile Gloves) และถุงมือยางธรรมชาติ (Latex Glove) ภายใต้แบรนด์ ?บีโคลฟ? (BQLOVE) โดยเบื้องต้นการก่อสร้างโรงงานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนการเงินจากกลุ่มแต้ล้งฮั้ว ทำให้ธุรกิจครั้งนี้สำเร็จได้อย่างราบรื่น
นายธนาเดช ศิลปวิศวกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวบี เมดิคอล จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่สิ้นปี 2562 เป็นต้นมา ทำให้ปริมาณการผลิตถุงมือยางทุกชนิด ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดและผู้ใช้ ทำให้เกิดการซื้อขายที่เกินราคาและเริ่มมีสินค้าที่ด้อยคุณภาพ, สินค้าที่ใช้แล้ว, รวมทั้งสินค้าปลอมออกสู่ตลาดทั้งในประเทศไทย และส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยตกต่ำลงและเสื่อมเสียชื่อเสียง
จากโอกาสทางการตลาด และเพื่อแก้ปัญหาภาพลักษณ์ของประเทศไทย นำมาสู่การเปิดตัวบริษัท คิวบี เมดิคอล จำกัด เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตถุงมือยาง โดยใช้งบลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท บนที่ดินขนาด 117,600 ตารางเมตร (73.5 ไร่) ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้รับรางวัลสิ่งแวดล้อม 1 ใน 5 ของโลก โดยใช้นวัตกรรมและพลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) หรือก๊าซธรรมชาติเหลว เป็นเชื้อเพลิง ทดแทนการใช้พลังงานที่ทำให้เกิดมลพิษ และทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการใช้นวัตกรรมระบบบำบัดน้ำเสียในการคืนน้ำดีสู่ธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากอุตสาหกรรมผลิตถุงมือไนไตรล์ทั่วๆ ไป เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ในการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โรงงานประกอบด้วย 6 อาคาร เครื่องจักร 32 ไลน์การผลิต โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ในโรงงานเป็นเครื่องออโตทั้งระบบ โดยมีทีมที่ปรึกษาจากต่างประเทศเป็นผู้ช่วยสนับสนุนด้านข้อมูล สำหรับโรงงานดังกล่าว สามารถผลิตถุงมือไนไตรล์ได้ประมาณ 1,000 ล้านชิ้นต่อเดือน (10 ล้านกล่อง) ประกอบด้วยถุงมือยางหลากหลายประเภท ได้แก่ ถุงมือสำหรับการผ่าตัด (Surgical Glove), ถุงมือสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Golve), ถุงมือสำหรับการตรวจโรค (Examination Glove), ถุงมือชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Glove) ฯลฯ
ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในเดือนตุลาคม 2563 และตั้งเป้าภายในเดือนพฤษภาคม 2564 จะสามารถส่งมอบสินค้าคุณภาพให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยได้มีการแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 2 บริษัท คือ บริษัท ภัสรุจ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท รสิพัชร์ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ
นายรุจิภาส ธนภัทรชัยทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวบี เมดิคอล จำกัด กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของบริษัท ตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำในการผลิตถุงมือคุณภาพในระดับโลก ภายใต้สโลแกน สินค้าคุณภาพ โรงงานทันสมัย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับรางวัลสิ่งแวดล้อม 1 ใน 5 ของโลก จะเป็นหัวใจสำคัญที่นำมาซึ่งชื่อเสียงของสินค้า และทำให้เกิดการยอมรับในคุณภาพถุงมือยางของไทยในระดับโลก โดยตั้งเป้าที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต