ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เผยถึงความสำเร็จของงานสตาร์ทอัพไทยแลนด์และอินโนเวชั่นไทยแลนด์เอ็กซ์โป 2020 (Startup Thailand x Innovation Thailand Expo 2020) ที่เพิ่งผ่านพ้นไปว่า เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของเหล่าสตาร์ทอัพและนวัตกรรมชั้นนำของไทยที่ เข้ามาร่วมกันแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมของประเทศในการจัดงานในรูปแบบโลกนวัตกรรมเสมือนจริง 'Virtual World? ครั้งแรกของประเทศ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศผ่านพ้นจากวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก นับเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งนวัตกรรมการจัดงานเสมือนจริงที่สมบูรณ์แบบที่ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่งของประเทศไทย แต่ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้น ในการรวมหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี บริษัทขนาดใหญ่ หน่วยงานรัฐและสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยหรือระดับโลกมารวมกันในงานเดียว เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศให้เข้มแข็งขึ้น โดยปีนี้ได้รับความร่วมมือจาก 133 องค์กรพันธมิตร 412 หน่วยงานร่วมจัดแสดงผลงาน กับองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมรับมือภาวะวิกฤต จาก 6 ธีมสำคัญ 47 หัวข้อโดยวิทยากรชื่อดังกว่า 100 ท่าน ตลอดระยะเวลาจัดงานได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ นักลงทุน นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจ ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน 15,462 คน มียอดผู้เข้าชมงานผ่านเว็บไซต์กว่า 190,000 ครั้ง ซึ่งขณะนี้เปิดให้เข้าชมย้อนหลังได้แล้วทุกช่องทางผ่านทางเว็บไซต์ STxITE.nia.or.th และ NIA Youtube Channel เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านนวัตกรรมต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
การจัดงาน Startup Thailand x Innovation Thailand 2020 นอกจากสร้างกระแสตื่นตัวเรื่องนวัตกรรมเพื่อรับมือภาวะวิกฤตในระดับโลกที่อาจจะมาในหลากหลายรูปแบบมากขึ้นในอนาคตแล้ว ยังก่อให้เกิดผลกระทบในมิติต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม อาทิ เกิดการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและการลงทุนมากกว่า 15,000 ราย สร้างเม็ดเงินที่พร้อมลงทุน มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท เกิดการเข้าถึงสินค้าและบริการของ 200 สตาร์ทอัพผ่านตลาดสินค้าออนไลน์ กว่า 42,000 ครั้ง / คาดว่าจะเกิดการจ้างงานด้านนวัตกรรมไม่น้อยกว่า 1,500 อัตรา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ / เกิดแพลตฟอร์มใหม่ในการจัดงานอีเว้นท์ เพื่อใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในยุคนิวนอร์มัล ที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ในโลกเสมือนจริง ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป / เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนในการพัฒนาวิชาชีพและการศึกษา/ เกิดสินทรัพย์ใหม่ด้านข้อมูลจากการนำศาสตร์การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) มาใช้ในงานเพื่อคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสร้างโอกาสทางธุรกิจนวัตกรรม และเกิดการใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล (Data driven innovation)
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวย้ำว่า NIA มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอนาคตประเทศด้วยนวัตกรรม ซึ่งงาน Startup Thailand x Innovation Thailand 2020 จึงไม่ใช่เพียงแค่งานอีเว้นท์ออนไลน์เท่านั้น แต่เป็นนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการนวัตกรรมอย่างรอบด้าน รวมทั้งเป็นเครื่องมือหนึ่งเพื่อสร้างความตระหนักถึงการใช้ 'นวัตกรรมเพื่อรับมือภาวะวิกฤติ? อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหลังจากนี้ โลกนวัตกรรมเสมือนจริงที่เราสร้างขึ้นมาจะไม่จบลง แต่จะกลายเป็นกลไกของการสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมต่อไป
พร้อมทิ้งท้ายว่า เราจำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรับมือกับวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งวิกฤตไวรัสโควิด-19 วิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จากเวทีเสวนาออนไลน์ภายในงาน พบว่าเทรนด์โลกมุ่งไปที่เรื่องของ Deep Tech ที่จะก้าวมามีบทบาทสำคัญในการตอบโจทย์ประเด็นความท้าทายที่ไม่อาจรับมือด้วยการตั้งรับเพียงอย่างเดียวอย่างที่ผ่านมา ดังนั้น ก้าวต่อไปของงาน Startup Thailand x Innovation Thailand 2021 จะมุ่งเน้นด้าน 'DeepTech Rising? เทคโนโลยีขั้นสูงที่จะเข้ามาขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงโลก