?วราวุธ? สั่งเร่งแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่ง พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ อ.ชะอำ ย้ำต้องยั่งยืน ?ปลัดจตุพร ?เร่งรัดกรมทะเลจัดการด่วน ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้กลายเป็นปัญหาสำคัญในหลายพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน และประชาชนอย่างมาก โครงการก่อสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาในหลายจุดของหลายหน่วยงานกลับส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงในภายหลัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดเร่งศึกษาแนวทางแก้ไข พร้อมย้ำให้การแก้ปัญหาเกิด ความยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้แต่งตั้งคณะทำงานและจ้างผู้เชี่ยวชาญศึกษาโดยละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2564
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศในหลายพื้นที่ได้รับการแก้ไขปัญหาไปแล้ว แต่ยังมีอีกบางพื้นที่ที่ยังประสบปัญหา รวมแล้วกว่า 89 กิโลเมตร ซึ่งมีหลายหน่วยงานพยายามแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร่งด่วน แต่อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะให้คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นและที่อาจจะตามมาเป็นสำคัญ อีกทั้ง ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของการดำเนินการด้วย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 ตนได้มีโอกาสลงพื้นที่พร้อมด้วย นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณพระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ซึ่งตนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจาก พระราชนิเวศน์ฯดังกล่าว นับเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศ มีประวัติอันยาวนาน ซึ่งตนได้รับรายงานแล้วทราบว่า ในพื้นที่นี้มีโครงสร้างในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ทั้งสิ้นกว่า 5 ประเภท ทั้งเขื่อนกันทรายและคลื่น 2 ตัว เขื่อนป้องกันนอกชายฝั่งแบบใต้น้ำ รอดักทราย และกำแพงป้องกันคลื่นริมชายหาด ความยาวกว่า 2,500 เมตร โดยตนเข้าใจในเจตนารมณ์ของหน่วยงานที่ก่อสร้าง ทั้งหมดก็เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน แต่ปัจจุบันโครงสร้างดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ ซึ่งตนได้หารือกับนายยุทธพล อังกินันทน์
ที่ปรึกษาฯ และท่านปลัดกระทรวงฯ ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการแก้ไขอย่างถูกหลักวิชาการและเกิดความยั่งยืน ท้ายนี้ตนอยากย้ำให้พี่น้องประชาชนและผู้เกี่ยวข้องได้มั่นใจว่า ?การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติมีความมุ่งมั่นดำเนินการโดยยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ หากแต่ขณะนี้เกิดมีผลกระทบที่ตามมาจะด้วยสาเหตุใดก็ตามกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมที่จะแก้ไข เพื่อรักษาสมดุล ของแนวชายฝั่งเพื่อสร้างความสุขให้แก่พี่น้องประชาชนให้ได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน ซึ่งในอนาคตโครงการต่างๆจะต้องนำมาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามหลักวิชาการจากคณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเสียก่อนที่จะนำไปขอรับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณได้ ซึ่งตนมั่นใจว่าจะสามารถบูรณาการการแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งได้อย่างเป็นรูปธรรม? นายวราวุธกล่าวแสดงความมั่นใจ
ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส. กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปัญหาโครงสร้างต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งและนอกชายฝั่งที่ส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะทำให้บริเวณโดยรอบ บดบังทัศนียภาพ และกีดขวางการเดินเรือ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวเป็นโครงสร้างที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน สำหรับพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการที่ดำเนินการก่อสร้างโดยส่วนราชการอื่นในปี 2549 แล้วเสร็จในปี 2551 ภายหลังจากการก่อสร้างส่งผลกระทบต่อชายฝั่งบริเวณหน้าวัดไทรย้อยและหน้าโรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนี้ ตนได้มีข้อสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งรัดดำเนินการแก้ไข โดยเร่งด่วน ต่อไป
ในประเด็นนี้ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าทางกรมฯ ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินการเพื่อจัดทำแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดในพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ให้สอดคล้องกับสภาพตามธรรมชาติ ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท เริ่มดำเนินการลงนามในสัญญาตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา และมีกำหนดการศึกษาแล้วเสร็จภายในวันที่ 27 มีนาคม 2564 พร้อมทั้ง ได้แต่งตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญให้กำกับโครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาเพื่อจัดทำแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาด ให้สอดคล้องกับสภาพตามธรรมชาติ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ รวมทั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่ง ได้อย่างละเอียด รอบคอบ ถูกต้องตามหลักวิชาการ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย รวมถึง พี่น้องประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม แนวทางสำคัญที่ทางกรมฯ จะเน้นย้ำ คือ การดำเนินการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งจะต้องเป็นไปตามมาตรการ ขาว-เขียว-เทา ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ซึ่งจะมุ่งเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติและความยั่งยืนของการแก้ไขปัญหา นายโสภณ ทองดี ระบุถึงมาตรการในช่วงท้าย