กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ.น้ำตาลขอนแก่น เป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายรายใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ
ก้าวเข้าสู่ตลาดทุนเป็นแห่งแรกด้วยทุนเรียกชำระแล้วกว่า 1,500 ล้าน เตรียมเข้าจดทะเบียนในกลุ่ม
ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และต่อยอดไปยังธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ผลิตไฟฟ้า เอธานอล ปุ๋ย และ
สารเคมีจากแอลกอฮอล์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 7 มี.ค. 48 นี้
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “KSL”
“บมจ.น้ำตาลขอนแก่นนับเป็นกิจการน้ำตาลแห่งแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยนอกจากจะดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตน้ำตาลแล้ว ยังมีธุรกิจต่อเนื่องที่นำผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลทราย เช่น กากน้ำตาล กากอ้อย กากหม้อกรอง มาเพิ่มมูลค่าโดยได้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ เช่น การผลิตไฟฟ้า
เอธานอล ปุ๋ย และสารเคมีจากแอลกอฮอล์
จึงเห็นได้ว่า ธุรกิจน้ำตาลมีความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมและแรงงานจำนวนมาก นอกจากนี้ ด้วยสภาพธุรกิจน้ำตาลโลกที่มิใช่การแข่งขันสมบูรณ์ การส่งเสริมให้มีการระดมทุนผ่านตลาดทุน เอื้อให้กิจการน้ำตาลสามารถลดต้นทุนการผลิต และต่อยอดธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันได้ จึงเป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม” รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าว
บมจ.น้ำตาลขอนแก่น หรือ KSL มีทุนเรียกชำระแล้ว 1,550 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,270.46 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 279.54 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 24 — 25 ก.พ. 48 จำนวน 269.54 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.30 บาท และส่วนที่เหลือจำนวน 10 ล้านหุ้น ได้เสนอขายหุ้นแก่ชาวไร่ และพนักงาน ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ.48 ในราคาหุ้นละ 4.30 บาท
นอกจากนี้ KSL ได้มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู ออปชั่น) จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 8.94 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพของระดับราคาหุ้นหลังเข้าเทรด โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 1,166 ล้านบาท KSL จะนำไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าน้ำตาลขอนแก่น 400 ล้านบาท ลงทุนในโครงการผลิตแอลกอฮอล์ 120 ล้านบาท และลงทุนในโครงการปุ๋ย 40 ล้านบาท ที่เหลือ 606 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายใน
ปัจจุบัน KSL และบริษัทย่อยโรงงานน้ำตาล 3 แห่ง เป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ
ด้วยกำลังการผลิต ราว 67,000 ตันต่อวัน มีกิจการในเครือรวม 10 แห่ง ประกอบด้วยธุรกิจ น้ำตาลและธุรกิจต่อเนื่อง 6 แห่ง ธุรกิจสนับสนุน 2 แห่ง ซึ่งรวมถึงบมจ.ไทยชูการ์ เทอร์มินอล (TSTE) ที่ KSL ถือหุ้น 24% และยังได้ร่วมลงทุนกับกิจการอื่น ๆ อีก 2 แห่ง
KSL มีรายได้หลักจากการขายน้ำตาล คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 87 ของรายได้รวมในปี 2547
ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขายในตลาดต่างประเทศ รายได้ที่เหลือร้อยละ 13 มาจากการขายกากน้ำตาลและรายได้อื่นๆ ด้านกำไรสุทธิ KSL มีกำไรสุทธิในปี 2547 รวม 593 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 340 ล้านบาทในปี 46 ประมาณร้อยละ 74 ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบมจ.น้ำตาลขอนแก่นประกอบด้วย กลุ่มชินธรรมมิตร์ และพันธมิตรถือหุ้นร้อยละ 68.79 ของทุนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอตามลำดับ
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของบมจ.น้ำตาลขอนแก่น ติดตามได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.kslgroup.com เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th และเว็บไซต์บ.เซ็ทเทรด ดอท คอม www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049/
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--