บลจ.ไทยพาณิชย์ ตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุน เสนอขายต่อเนื่องกับกองทุน "คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 1YG"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 22, 2020 15:37 —ThaiPR.net

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า จากที่บริษัทได้นำเสนอขายกองทุน คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ได้มีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นกองทุนที่เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนตามราคาทองคำโลกจากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับ ETF SPDR Gold Shares จากราคาทองคำขาขึ้น พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้นเมื่อทองคำปรับตัวลง บริษัทฯ จึงได้เสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1YG (SCB Complex Return 1YG : SCBCR1YG) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน โดยกองทุนมีอายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 2,150 ล้านบาท เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวระหว่างวันที่ 20 - 26 ตุลาคม 2563 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

สำหรับกองทุนนี้มีกลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 นำเงินต้นประมาณ 98% ของทรัพย์สินกองทุนไปลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากทั้งในและต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับลงทุนได้ขึ้นไป เมื่อครบกำหนดอายุกองทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมโอกาสรับผลตอบแทนซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้น การลงทุนส่วนนี้มีความผันผวนต่ำช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ โดยเบื้องต้นคาดว่าพอร์ตการลงทุนในส่วนนี้จะประกอบไปด้วย เงินฝากธนาคาร Doha Bank (DOHA) ? กาตาร์, เงินฝากธนาคาร Ahli Bank (AHL) ? กาตาร์, ตราสารหนี้ธนาคาร Al Khaliji Bank (ALK) ? กาตาร์, ตราสารหนี้ธนาคาร The Commercial Bank (CBQ) ? กาตาร์ ตราสารหนี้ธนาคาร Qatar National Bank (QNB) ?กาตาร์ และตราสารหนี้ China Merchants Bank (CMB) ? จีน ซึ่งกองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ส่วนที่ 2 ประมาณ 2% ของทรัพย์สินกองทุน จะนำไปลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อิงกับผลตอบแทนของ ETF - SPDR Gold Shares จดทะเบียนและซื้อขายในสหรัฐอเมริกา เน้นสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับราคาทองคำ LBMA Gold Price PM ที่ได้รับการประเมินจาก London Bullion Market Association (LBMA) ผู้นำของโลกในการซื้อขายกำหนดมาตรฐานรูปแบบและแหล่งที่มาของโลหะรวมถึงทองคำ โดยสัญญาวอแรนต์ดังกล่าวมีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนแบบ Shark fin ซึ่งเป็นส่วนสร้างผลตอบให้กับกองทุน โดยแบ่งการจ่ายผลตอบแทนเป็น 3 กรณี คือ กรณีที่ 1 จ่ายผลตอบแทน 60% ของผลตอบแทนของ ETF เมื่อ ETF ปรับตัวขึ้นระหว่าง 0 ถึง 15% กรณีที่ 2 จ่ายผลตอบแทนชดเชยประมาณ 0.25% เมื่อ ETF ปรับตัวขึ้นเกิน 15% ระหว่างอายุกองทุน และกรณีที่ 3 ไม่จ่ายผลตอบแทนหาก ETF ปรับตัวลงต่ำกว่าราคา ณ วันลงทุนเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน โดย ETF - SPDR Gold Shares มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 24.94% ต่อปี ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.92% ต่อปี และย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ 26.39% ต่อปี (ที่มา Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2563)

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถนำมาผสมไว้ในพอร์ตการลงทุนเพื่อเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ เนื่องจากทองนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มักจะทำได้ดีในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง หรือมีความกังวลด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นกองทุน SCBCR1YG ที่มีรูปแบบการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากราคาทองคำขาขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้นเมื่อทองคำปรับตัวลง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจดีกว่าการลงทุนในทองคำโดยตรง

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.link/scbcr1yg


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ