ปรับธุรกิจตอบสนองเทรนด์รักษ์โลก บริษัท เอสดีเจ อินเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตพลาสติกมายาวนานกว่า 15 ปี จัดแคมเปญต้อนรับปีใหม่ เปลี่ยนถุงพลาสติกสีดำ เป็นถุงพลาสติก "รักโลก" โดยการแยกขยะ(แยกสี) กระตุ้นการจัดการสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการแยกขยะ และใช้ถุงขยะให้ถูกประเภท เปลี่ยนถุงขยะสีดำให้เป็นถุงขยะสีสดใส
นายไพฑูรย์ ปานสูง ประธานที่ปรึกษาบริษัท เอสดีเจ อินเตอร์ จำกัด กล่าวถึงมุมมองการดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (พลาสติก) ในประเทศไทย ว่าน่าจะเป็นธุรกิจที่มีอนาคตที่ดี โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน ที่มีการใช้ในครัวเรือนอย่างแพร่หลาย และมีปริมาณการบริโภคสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มี GROWTH RATE เฉลี่ยปีละประมาณ 10% จากการทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เด่น คือ ถุงขยะแบรนด์ N-JOY ซึ่งมีมากว่า 10 ปีแล้ว ด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดและขนาด ได้แก่ ถุงขยะแบบก้นกลม แบบม้วน และแบบหูหิ้ว (T-Shirt) ทั้งแบบย่อยสลาย และ ธรรมดา
"ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความหมายของคำว่า "ขยะ" แนวใหม่ให้แก่ลูกค้า จากถุงขยะสีดำที่มีขยะทุกประเภทรวมกัน มีกลิ่นเหม็น และต้องเป็นถุงที่มีความหนาเพื่อรองรับขยะทุกประเภทจากครัวเรือน แต่เราต้องการส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะ แยกประเภทของขยะ ซึ่งจะนำไปสู่การจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ เราจึงพยายามค้นหาข้อมูลว่าจะเปลี่ยนทัศนคติลูกค้าให้เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะ โดยการแยกขยะออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ยังทำประโยชน์ได้ และสิ่งที่ต้องทิ้ง ซึ่งหากคนส่วนใหญ่ทำได้ดังนี้ จำนวนขยะจะลดลงทันที นั่นจึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ถุงขยะ "รักโลก" ที่เราออกแบบให้มีสีสันแตกต่างกัน เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคใส่ใจกับการคัดแยกขยะ และยังมีกลิ่นหอมแตกต่างกันด้วย เพื่อช่วยลดกลิ่นขยะ ซึ่งจะทำให้การคัดแยกขยะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และทำได้ง่ายขึ้น"
นางสาวศรี ปานสูง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสดีเจ อินเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมถึง แนวคิดในการทำถุงขยะ "รักโลก" ว่ายังคงมีคุณลักษณะที่ดีของถุงขยะ คือ ความแข็งแรงแต่บางกว่าถุงขยะแบบเดิม เพราะผลิตจากเม็ดพลาสติกใหม่จึงทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็น และยังเพิ่มเทคโนลยีกลิ่นหอมขึ้นมาอีกด้วย โดยออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีหลายกลิ่นและหลายสีตามความต้องการของลูกค้า
แนวคิดในการออกแบบนี้ถือเป็นการทลายแนวความคิดเดิม ที่คนส่วนใหญ่มักเชื่อกันว่าถุงขยะจะต้องมีสีดำ มีความหนาและจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งจากการร่วมกันพัฒนาและผลิตสินค้าถุงขยะ"รักษ์โลก" (OEM) ให้กับซุปเปอร์สโตร์รายใหญ่อย่างเทสโก้ โลตัส ประเทศไทยนั้น เราพบว่าสินค้าได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ธุรกิจมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี
ปัจจุบัน นอกจากร่วมพัฒนาสินค้าให้กับลูกค้าแล้ว เราก็ยังพัฒนาสินค้าในแบรนด์ Njoy ของเราควบคู่กันไปด้วย โดยถุงขยะของเรามีขนาดมาตรฐานทั้งหมด 5 ขนาด ได้แก่ 18"x20", 24"x28", 26"x34", 30"x40" และ 36"x45" นอกเหนือจากสินค้าที่มีอยู่แล้ว คือ ถุงขยะก้นกลม,ถุงขยะหูหิ้ว, ถุงขยะแบบม้วนพิมพ์ลายเชอรี่และมีกลิ่นเชอรี่ ซึ่งมีทั้งสินค้าย่อยสลายและไม่ย่อยสลาย โดยล่าสุดเราเพิ่งเปิดตัวน้องใหม่ "ถุงอเนกประสงค์" ซึ่งใส่ได้ตั้งแต่อาหาร ไปจนถึงขยะ อีกทั้งภายในปลายปีนี้เราก็จะได้เห็นถุงแยกขยะ(สี) ภายใต้แบรนด์ N-Joy เริ่มวางขายในตลาดทั่วประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์อีกหลายๆ ตัว ซึ่งเป็นความตั้งใจที่เราจะสนับสนุนการแยกขยะในอนาคต ประกอบกับการขยายตัวของตลาดเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา เราจึงสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 1 โรงเพื่อรองรับความต้องการของตลาด และเพิ่มศักยภาพในการส่งออกไปประเทศใกล้เคียง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับสินค้าของประเทศไทยอีกด้วย
นายเดช ปานสูง รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน กล่าวว่า ต้นทุนการผลิตถุงขยะรักโลกมีราคาที่ถูกลง ถุงมีสีสวยและกลิ่นหอมนั้นทำให้ผู้ใช้ชื่นชอบ จึงเท่ากับช่วยภาครัฐฯ ในการส่งเสริมให้เกิดการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย "ต่อไปเราจะนำเสนอแนวคิด หรือรูปแบบถุงใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะกับยุคสมัย และ Life style ของคนเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราเสนอแนวคิดเรื่องการย่อยสลาย ว่าเป็นวิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการทำลายถุงและไม่สร้างมลภาวะให้แก่โลก โดยหลักการที่ว่าขยะ(ส่วนใหญ่เศษอาหาร) ที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในถุงเมื่อมีการฝังกลบแล้ว หลังจาก 2-3 ปีผ่านไปถุงจะย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ (เรียกว่า MICRO PLASTIC) จนทำให้เศษอาหารที่อยู่ภายในออกมาเป็นปุ๋ยได้"
ทั้งนี้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ เอส. ดี. เจ. อินเตอร์ ก็ตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงการป้องกันสภาวะแวดล้อมเสื่อมโทรมจากการผลิตขยะ ผ่านช่องทางสื่อหลายๆ ประเภท รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ กับชุมชน, สถาบันการศึกษา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอีกวิธีที่จะขยายความรับรู้ของชุมชน และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจัดการด้านขยะ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลทางอ้อมต่อยอดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน โดยกลยุทธ์การตลาดที่บริษัทฯทำอยู่ขณะนี้มีทั้งช่องทาง OFF LINE และ ON LINE ซึ่งในช่องทาง ON LINE นั้น คาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต จากการใช้ Social media ในการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้เข้าถึงง่าย และเร็วขึ้น
"พลาสติกไม่ใช่ผู้ร้าย เพียงแต่ต้องการการใช้อย่างเข้าใจ อย่าลืมว่าคุณสมบัติของมันนั้นไม่สามารถจะหาอะไรมาทดแทนได้ในการทำ Packaging มันจึงเป็นพระเอกมานานมาก มันถูกพัฒนามาเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีและง่ายขึ้นของพวกเรา ดังนั้น เราควรจะมองวิธีการที่จะใช้มันให้ถูกวิธี (Reduce, Reuse, Recycle) ควรจะรณรงค์เรื่องนี้มากกว่าจะให้เลิกใช้ไปเลย เพราะมันจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด" นายเดช กล่าวทิ้งท้าย