บลจ.ทิสโก้เพิ่มทางเลือกการลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนรวมเพื่อการออม เปิดกองทุน SSF ใหม่อีก 4 กองทุน หลากหลายนโยบายครอบคลุมทั้งหุ้นไทยและต่างประเทศ เปิดให้ลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 63
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า เพื่อให้สินทรัพย์การลงทุนระยะยาวในพอร์ตลงทุนของลูกค้ามีความหลากหลาย รวมถึงมีส่วนช่วยเพิ่มทางเลือกสำหรับวางแผนภาษีในช่วงปลายปี 2563 ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ได้นำเสนอกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ใหม่ที่มีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทั้งหุ้นไทย และหุ้นต่างประเทศ เพิ่มเติมอีก 4 กองทุน โดยจะเปิดให้ลงทุนได้ทุกกองทุนตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563
สำหรับกองทุน SSF ใหม่ที่ บลจ.ทิสโก้นำเสนอในครั้งนี้ ได้แก่
นายสาห์รัชกล่าวอีกว่า สำหรับกองทุน SSF ที่ บลจ.ทิสโก้นำเสนอไปก่อนหน้านี้มี 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TINC-SSF) กองทุนรวมผสม ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย อาทิ ตราสารหนี้ไทย หุ้นไทย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดี เป็นต้น และ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุน เพื่อการออม ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TEG-SSF) กองทุนรวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหุ้นไทยโดยกระจายการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก
พิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ซื้อ หรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน SSF ที่ร่วมรายการระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 มกราคม 2564 ทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท (1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์)
ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุน SSF นั้น ผู้ลงทุนจะต้องถือครองหน่วยลงทุน 10 ปีนับจากวันที่ลงทุน โดยมีจำนวนเงินลงทุนสูงสุดในแต่ละปี ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีต่อปี และต้องไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมเงินลงทุนใน SSF กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), ประกันบำนาญ หรือกองทุนเกษียณอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท หากผิดเงื่อนไขการลงทุน หรือขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบ 10 ปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับลดหย่อนพร้อมจ่ายเงินเพิ่มให้รัฐฯ 1.50% ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายนของปีที่เคยยื่นขอลดหย่อนภาษีไว้ จนถึงวันที่ยื่นคืนภาษี และกำไรที่ได้จากการขายคืนถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน ซึ่งต้องนำไปรวมคำนวณภาษีด้วย
กองทุนเปิด TINC-SSF, TCHTECH-SSF และ TISCOCHA-SSF อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของ SSF และควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้เปิดเผยไว้ที่ www.tiscoasset.com ก่อนตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4 และ 0 2080 6000 กด 4