เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ หนุน S-Curve อุตสาหกรรมดาวเด่นสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ข่าวเทคโนโลยี Thursday November 12, 2020 15:01 —ThaiPR.net

การยกระดับเศรษฐกิจของชาติโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญของการพัฒนาประเทศ "ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก" (Eastern Economic Corridor) หรือ EEC นับเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยเมกะโปรเจค และการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ถือเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากนานาประเทศที่จะเข้ามาลงทุนเป็นอย่างมาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ "บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก" (Global Mobility Technology Company) เป็นอีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่มั่นใจในศักยภาพของประเทศไทย และมีความพร้อมที่จะนำนวัตกรรม เทคโนโลยี รวมไปถึงความรู้ขั้นสูงเพื่อมาช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม S-Curve ไทย ทั้งด้านยานยนต์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมไปถึงการใช้หุ่นยนต์ในระบบอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น

พื้นที่ภาคตะวันออกของไทย นับเป็นพื้นที่สำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกหรือ Eastern Seaboard ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานมากมาย เมื่อโลกก้าวสู่ยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จึงถูกตั้งขึ้นเพื่อต่อยอดโครงการ Eastern Seaboard ให้ตอบโจทย์การพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมของไทย ดึงดูดนักลงทุนเพื่อเข้ามาลงทุน ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มเม็ดเงินของเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ยังรวมไปถึงการช่วยพัฒนาองค์ความรู้ทั้งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้แก่คนไทยและภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย

EEC จุดยุทธศาสตร์สำคัญในแนวรบเศรษฐกิจไทยและอาเซียน

จากการศึกษาของศูนย์วิจัยตลาดเติบโตสูงของ PwC แสดงให้เห็นว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังมีบทบาทในเศรษฐกิจโลกมากขึ้น การรวมตัวกันของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อเตรียมความพร้อมและกำหนดกลยุทธ์สำหรับการเติบโตในอนาคตจึงได้รับความนิยมมากขึ้น การพัฒนาพื้นที่ EEC จึงเน้นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี 5G โครงสร้างด้านสมาร์ทโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนในพื้นที่ให้มีต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และสนับสนุนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมสำคัญตามยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (12 S-Curve Industries) ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็คือ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive)

จากสถิติล่าสุดพบว่า กลุ่มประเทศอาเซียน มี GDP รวมกันคิดเป็น 3.6% ของ ของ GDP โลก โดย EEC ของประเทศไทยเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในเชิงงบประมาณ และขนาดพื้นที่กว่า 13,266 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา มีประชากรรวมกันกว่า 3 ล้านคน รวมมูลค่า GDP ของทั้ง 3 จังหวัดเท่ากับ 2,464,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 14% ของมูลค่า GDP ประเทศEEC จึงเป็นพื้นที่ศักยภาพที่ดึงดูดการลงทุนระดับเมกะโปรเจคจากนานาประเทศ ซึ่งข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า สัดส่วนการลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลที่จัดตั้งในไทย มีการลงทุนในจังหวัดระยองสูงสุด 399,389.60 ล้านบาท ชลบุรี 266,457.87 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา 71,164.51 ล้านบาท โดย ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์ คือ สามอันดับแรกของประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2563 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 277 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนรวม 106,300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ

เสริมความแข็งแกร่งอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

อุตสาหกรรมยานยนต์ นับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม S Curve ดาวเด่น ที่น่าจับตามอง ซึ่งประเทศไทยนับได้ว่าเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตรถยนต์ที่สำคัญ โดยเป็นผู้ผลิตยานยนต์อันดับที่ 11 ของโลก อันดับที่ 5 ของเอเชีย และอันดับ 1 ของอาเซียน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็น 10% ของ GDP ของประเทศ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มั่นใจในศักยภาพประเทศไทย โดยมีเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์พวงมาลัยขวาในไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มเข้ามาดำเนินการที่โรงงานในจังหวัดระยองอย่างเป็นทางการ ปักหมุดสร้าง "โรงงานอัจฉริยะ" (Smart Factory) เพื่อพัฒนาและยกระดับระบบการผลิตยานยนต์ ผ่านนวัตกรรม เทคโนโลยี องค์ความรู้ และระบบการทำงานต่างๆ รวมไปถึงการวางแผนที่จะนำหุ่นยนต์ และการเชื่อมโยงระบบข้อมูลอัจฉริยะที่รวมการวิจัย การผลิต การจัดหา และการตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงาน ลดการใช้แรงงานในส่วนงานที่อันตรายและต้องการความแม่นยำสูงที่สามารถใช้หุ่นยนต์ทดแทนได้ เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานไปทำในส่วนสำคัญอื่นๆ มากยิ่งขึ้น นับได้ว่าเป็นวิสัยทัศน์ในการนำอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ก้าวไปสู่โลกอนาคตอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีศักยภาพเพื่อนำมาส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) อาทิ

  • การใช้หุ่นยนต์ และระบบ Welding machine ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตและประกอบรถยนต์ในโรงงาน
  • การใช้แพลตฟอร์ม Lemon แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบโมดูล่าร์ระดับโลกที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการพัฒนาของรถซีดาน รถเอสยูวี และรถเอ็มพีวี ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา สามารถลดแรงระหว่างการขับเคลื่อนให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การใช้แพลตฟอร์ม Tank แพลตฟอร์มระดับโลกเพื่อตอบโจทย์ทุกขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
  • การใช้ระบบ Coffee Intelligence ระบบอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต (Future Mobility) ที่ประกอบด้วย ห้องโดยสารอัจฉริยะ (Intelligent Cab) การขับขี่อัตโนมัติ (Intelligent Driving) และการออกแบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Intelligent Electrical Architecture) ที่จะสร้างประสบกาณ์การขับขี่ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถในการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต ที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่และใกล้ชิดกันระหว่างคนและรถได้มากยิ่งขึ้น

พัฒนาทักษะเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้แรงงานไทยทะยานสู่มืออาชีพระดับโลก
การเข้ามาลงทุนของเกรท วอลล์ มอเตอร์ นอกจากมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการจ้างงาน รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรไทย ทั้งทักษะสมัยใหม่ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังจะเติบโต และสอดคล้องกับแนวทางการยกระดับการพัฒนาเศรษกิจของประเทศ โดยบริษัทจะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจเพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับประเทศไทย ในการนำวิสัยทัศน์ ผลิตภัณฑ์ การบริการอัน ยอดเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่รถยนต์ที่ล้ำสมัย มานำเสนอให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัส พร้อมสื่อสาร ข้อมูลความรู้ และนวัตกรรม เพื่อให้คนไทยเข้าสู่ยุคของอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งโลกอนาคต

เกี่ยวกับเกรท วอลล์ มอเตอร์

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM ผู้ผลิตรถ SUV และรถกระบะระดับโลก จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัทและมีพนักงานกว่า 70,000 คน ปัจจุบันเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายได้กว่าหนึ่งล้านคันต่อปี เป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน ซึ่งนอกจากในประเทศจีน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังส่งมอบรถยนต์คุณภาพไปให้กว่า 60 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 500 แห่งอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ