บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โชว์ศักยภาพยังแกร่ง ผลงานไตรมาส 3/63 สุดล้ำกำไรสุทธิ 62.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 270.59 เทียบกับไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 16.97 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมแตะ 3,061.33 ล้านบาท "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายภาพรวมธุรกิจยังมีศักยภาพ รันธุรกิจได้ตามแผน แถมมีธุรกิจอาหาร Margin สูงช่วยหนุน
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563) ของกลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 62.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.91 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 270.59 เมื่อเทียบกับไตรมาส2/2563 ที่มีกำไรสุทธิ 16.97 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 3,061.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 517.37 ล้านบาท จากงวดไตรมาส 2/ 2563 มีรายได้รวม 2,543.95.ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจ ตามแผนที่ได้วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการบริหารจัดการด้านต้นทุน มุ่งเน้นการพัฒนาด้านการบริการ ผ่านความรู้และประสบการณ์อันยาวนาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ด้วยยุทธศาสตร์ของบริษัทฯในการลงทุนขยายจุดกระจายสินค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ทำให้ยอดขายของบริษัทฯในไตรมาส 3 ฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับระดับปกติ โดยใน 9 เดือนแรก ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของบริษัทฯอยู่ที่อันดับ 2 หรือคิดเป็น Market Share 18.49%
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส4/2563 เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการขยายตัวของจุดกระจายสินค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงมองหาโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจ เพื่อขยายความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นคือ ธุรกิจอาหารที่บริษัทได้ขยายการลงทุนผ่านบริษัทย่อย ดับบลิวพี โซลูชั่น (WP ถือหุ้น 99.99%) เพื่อลงทุนผ่านบริษัท Wonderfood (ดับบลิวพี โซลูชั่นถือ 50%) ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเริ่มเปิดตัวร้านผัดไทยไฟทะลุร่วมกับ เชฟ แอนดี้ หยาง เชฟมิชลิน 1 ดวงคนแรกของไทย สำหรับสาขาแรกเปิดที่ คิงเพาเวอร์ มหานคร และในเดือนธันวาคมนี้ เตรียมเปิดสาขาแห่งที่ 2 ที่สยามสแควร์เพิ่มเติมเพื่อเสริมศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
"ปัจจุบันฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ถือว่ายังมีความแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวมทั้งสิ้น 734.41 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีแนวโน้มที่จะใช้ลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ และยังคงมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ประกอบกับบริษัทฯยังมีความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มไตรมาส 4 น่าจะเติบโตอยู่ในทิศทางเดียวกัน โดยบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อสร้างฐานกำไรให้เติบโตอย่างมีศักยภาพในระยะยาว" นางสาวชมกมล กล่าวในที่สุด