บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA เติบโตแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ไตรมาส 3/2563 ทำกำไรสุทธิ 2,084.4 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 1,442.9% และมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 16,496.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% รับดีมานด์ถุงมือยางที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงราคาถุงมือยางที่ปรับเพิ่มขึ้นสอดรับกับความต้องการที่แข็งแกร่งจากทั่วโลก
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติครบวงจรอันดับ 1 ของโลก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 นับเป็นไตรมาสที่มีการเติบโตได้ดี แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลกที่ยังคงไม่คลี่คลาย โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,084.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,442.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 135.1 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 16,496.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 15,383.7 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 ที่เติบโตได้ดี เกิดจากอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางที่มีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและขยายตัวจากการใช้งานในทางการแพทย์ไปสู่การใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่งผลให้บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นปลายของอุตสาหกรรมยางพารา มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดและสะท้อนมายังผลการดำเนินงานของ STA
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้สามารถเติบโตได้ดีในทิศทางเดียวกัน โดยมีกำไรสุทธิ 4,032.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นออย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 222.5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 49,233.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 45,405.5 ล้านบาท
"แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากบางประเทศเริ่มประสบปัญหาการระบาดของโรค COVID-19 ในรอบที่ 2 และ 3 อย่างไรก็ตามเรามั่นใจว่าจะสามารถทำผลการดำเนินงานทั้งปีให้เติบโตได้ดี จากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและจุดแข็งของกลุ่มศรีตรังที่มีธุรกิจยางธรรมชาติครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นปลาย" นายวีรสิทธิ์ กล่าว