บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ไม่ธรรมดา! ทำผลงานงวด 9 เดือน สุดไฉไล กวาดกำไร 91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 49 ล้านบาท หรือ 116% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน รับอานิสงส์ธุรกิจพลังงานทดแทนหนุน "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" ประเมินโค้งสุดท้ายผลงานยังแจ่ม พร้อมเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 49 ล้านบาท หรือคิดเป็น 116% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 3/2562 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2563 เชื่อว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม 100 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาว 5 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนนี้เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจของบริษัทฯ อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ เติบโตยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) ที่จะทยอยรับรู้เข้ามารวมประมาณ 935 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมประมาณ 135 ล้านบาท ธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 800 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและเป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้ไม่ต่ำว่า 3,500 ล้านบาท
"ผลประกอบการเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 4 น่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยประเมินว่าธุรกิจพลังงานทดแทนยังเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น เป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นที่ต้องการของตลาด และยังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอีกด้วย ขณะที่งานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม และธุรกิจเทรดดิ้ง CSS พร้อมที่จะเข้าประมูลงานทุกงาน เพราะเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตเช่นกัน "นายสมพงษ์ กล่าวในที่สุด