"ศรีสวัสดิ์" ผนึกกำลัง NOBLE ดึงมาถือหุ้นบริษัทย่อย SWP สัดส่วน 20% เพิ่มศักยภาพการเติบโตธุรกิจบริหารสินทรัพย์ หวัง NOBLE หนุนบริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกัน ทั้งในเรื่องการนำทรัพย์สินที่มีหลักประกันไปพัฒนาตกแต่งและขาย ก่อนผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2-3 ปี เผยล่าสุด SWP มีมูลค่าหนี้ที่ติดตามได้กว่า 12,000 ล้านบาท
นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ได้มีมติให้บริษัทลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) ให้กับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เพื่อขายหุ้นบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด หรือ SWP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAWAD ที่ดำเนินธุรกิจด้านบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้กับบริษัทโนเบิลฯ ในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายหุ้นประมาณ 300 ล้านบาท
นางสาวดวงใจ กล่าวต่อว่า SAWAD ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ จึงได้เริ่มดำเนินธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพในปี 2558 ภายใต้การบริหารจัดการของ SWP โดยซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันทางการเงินมาบริหารจัดการ ใช้ประสบการณ์และความชำนาญในการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ บ้าน และโฉนดที่ดินของกลุ่ม SAWAD ซึ่งมียอดลูกหนี้สุทธิรวมกว่า 38,000 ล้านบาท มีทีมงานที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้านการติดตามเร่งรัดหนี้สิน และมีช่องทางการบริการทั่วประเทศ 4,660 สาขา ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ปัจจุบัน SWP ได้ขยายมูลค่าพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีมูลค่าหนี้ที่ติดตามได้กว่า 12,000 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขายตามมูลค่ายุติธรรมกว่า 610 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่มีหลักประกัน"
ทั้งนี้การร่วมผนึกกำลังกับ NOBLE จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกันของ SWP ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องการนำทรัพย์สินที่มีหลักประกันไปพัฒนาและตกแต่งเพิ่มเติม รวมทั้งบทบาทหน้าที่ในการขายและการตลาด โดยอาศัยประสบการณ์ในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ NOBLE
อย่างไรก็ตาม การตกลงร่วมทุนและลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าว คาดว่าจะสำเร็จลุล่วงได้ภายในเดือน มกราคม 2564 โดย SAWAD จะต้องขอมติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ SWP อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 2- 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย
ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ NOBLE กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา NOBLE เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายที่จะมีโอกาสในการเลือกซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) จากสถาบันการเงิน เนื่องจากปริมาณสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจที่ดี โดยจะอาศัยประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการช่วยคัดกรองโครงการอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินที่มีหลักประกัน รวมถึงความชำนาญในการพัฒนาโครงการ การซ่อมแซม ปรับปรุง การตลาดและการส่งเสริมการขาย เพื่อเพิ่มช่องทางการขายในทรัพย์สินที่ได้รับจากการขายทอดตลาด หรือโอนทรัพย์ชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการที่ SWP มีพันธมิตรทางธุรกิจอย่างผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เช่น NOBLE จะทำให้เพิ่มมิติในการทำธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพย์สินมากขึ้นในราคาที่เหมาะสม รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันทางการเงินอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ทาง NOBLE มั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตให้กับ SWP ได้อย่างแน่นอน