สตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายใต้โมเดล 'ข้อเสนอพิเศษในการจองร้านอาหาร' เปิดระดมเงินลงทุนรอบ Pre-Series A เพื่อรับแผนขยายธุรกิจระดับภูมิภาคภายในประเทศไทยและเตรียมพร้อมที่จะขยายไประดับ South East Asia ในปีต่อไป
Hungry Hub แพลตฟอร์มจองโต๊ะร้านอาหารออนไลน์ที่นำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ ประกาศถึงการรับเงินลงทุนรอบใหม่จาก ECG Research ผู้นำด้านการลงทุน Private Equity รายใหญ่ในประเทศไทย
แนวคิดโมเดลธุรกิจการจองโต๊ะออนไลน์ที่ไม่เหมือนใครของ Hungry Hub คือการเปลี่ยนร้านอาหาร A la carte ให้ทานได้แบบ All You Can Eat สำหรับลูกค้าที่จองร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ โดยในปัจจุบัน Hungry Hub ได้มีการรวมร้านอาหารระดับ High-end และห้องอาหารโรงแรม เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์มากขึ้น และมุ่งเน้นเซ็ตเมนูพิเศษภายใต้แพ็กเกจชื่อว่า Party Pack
ปัจจุบัน Hungry Hub มีร้านอาหารเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์รวมกว่า 400 ร้านในประเทศไทย มีผู้ใช้บริการจองโต๊ะไปแล้วมากกว่า 1,000,000 ที่นั่ง และสร้างยอดขายมากกว่า 500 ล้านบาท หรือ กว่า 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์ รวมไปถึงเครือโรงแรมระดับโลก อย่าง Marriott International ประจำประเทศไทย / Banyan Tree Hotel และยังมีร้านอาหารชั้นนำ อาทิ Audrey Cafe / Copper International Buffet / Crab and Claw และ Sushi Den ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ Hungry Hub ที่ต้องการสร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า ทราบราคาสุทธิที่ต้องจ่ายก่อนเดินเข้าร้านอาหาร และต้องการช่วยให้ร้านอาหารมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
คุณสุรสิทธิ์ สัจจเดว์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอปป์เซอร์เวชั่น จำกัด (ฮังกรี้ฮับ) กล่าวว่า "จากเหตุการล็อกดาวน์เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 ส่งผลกระทบต่อธุกิจร้านอาหารอย่างร้ายแรง Hungry Hub ได้แก้สถานการณ์โดยเปิดตัวแพ็กเกจใหม่ บริการเดลิเวอรี่ เซ็ตเมนูส่งถึงบ้าน เพื่อช่วยให้ร้านอาหารมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นและอยู่รอดได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แม้จะมีการคลายล็อกในช่วงเดือนมิถุนายน 2020 แต่ร้านอาหารชั้นนำของกรุงเทพฯ หลายแห่งยังคงได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศ เนื่องจากเน้นกลุ่มลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก ทำให้หลายๆร้านอาหารชั้นนำ หันมาร่วมมือกับ Hungry Hub เพื่อเข้าถึง Local Market หรือ ตลาดคนไทยมากขึ้น ซึ่งหลังจากได้รับเงินลงทุนในครั้งนี้ Hungry Hub มีเป้าหมายที่จะช่วยให้ร้านอาหารชั้นนำดังกล่าวให้เข้าถึงตลาดในประเทศได้อย่างจริงจังและยังมีแผนในการขยายฐานร้านอาหารให้มากขึ้นอีกด้วย"
หลังจากดำเนินงานในกรุงเทพฯ Hungry Hub มีแผนที่จะขยายไปที่จังหวัดภูเก็ตและพัทยาภายในเดือนธันวาคม 2020 และเปิดตัว Hungry Experience ซึ่งเป็นการรวมแพ็กเกจ ร้านอาหารและกิจกรรมเข้าด้วยกัน อาทิ คาราโอเกะ โบลิ่ง รวมถึงห้องพักโรงแรม
โดยก่อนหน้านี้ Hungry Hub ได้ระดมทุนรอบ Seed Round ในเดือนสิงหาคม 2019 เป็นจำนวน 450,000 ดอลลาร์สหรัฐจาก Expara และ 500 TukTuks (500 Startups Thailand fund)
คุณพัทธ์ชลิต กลิ่นหอม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีซีจี-รีเซิร์ช จำกัด กล่าวว่า "มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Hungry Hub เราได้เห็นศักยภาพในตลาดอุตสาหกรรมนี้ จากภาพรวมของตลาดที่ข้างใหญ่ และ Business Model ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทย เพราะสังเกตเห็นว่ามีร้านอาหารมากมายในประเทศไทยและคนไทยยังชอบโมเดลบุฟเฟ่ต์ หรือ All You Can Eat นอกจากนี้ Hungry Hub ยังสอดคล้องกับพันธกิจของ Private Equity for Public Equality ของเรา ซึ่งคือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยการสร้างความยั่งยืน เราจึงมุ่งเน้นไปที่การลงทุนที่สร้างมูลค่าให้กับชุมชน และในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 Hungry Hub ได้ช่วยร้านอาหารหลายแห่งในการเพิ่มยอดขายโดยใช้กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย ซึ่งชี้ให้เห็นว่า Hungry Hub มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ ECG-Research จึงยินดีที่จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของ Hungry Hub ด้วยการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การค้นหาพันธมิตรใหม่ๆทางธุรกิจที่มีศักยภาพ
เกี่ยวกับ Hungry Hub
Hungry Hub จัดตั้งครั้งแรกในไทย เมื่อปี 2014 เป็นธุรกิจสตาร์อัพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "แพลตฟอร์มจองร้านอาหาร 24 ชั่วโมง" ต่อมาในปี 2016 Hungry Hub ได้เปลี่ยนคอนเซ็ปต์เป็น "แพลตฟอร์มจองร้านอาหารพร้อมข้อเสนอพิเศษไม่เหมือนใคร" ซึ่งได้รับแรงบัลดาลใจมาจากการที่ คุณสุรสิทธิ์ สัจจเดว์ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Hungry Hub พาทีมไปเลี้ยงดินเนอร์ แต่งบที่จ่ายแต่ละครั้งบานปลายและคุมไม่อยู่ จึงได้คิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหานี้ และเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ "โปรโมชั่นร้านอาหาร ราคาเน็ต อิ่มคุ้ม คุมงบได้" โดยเปลี่ยนร้าน a la carte ให้ทานได้แบบ all you can eat หรือ บุฟเฟ่ต์ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังคำนึงในฝั่งของร้านอาหาร เน้นการสร้างยอดขายให้ร้านแบบไม่ลดราคา เพื่อให้ร้านอาหารมีรายได้อย่างยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ร้านอาหารอีกด้วย
หลังจากเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ Hungry Hub ได้ดำเนินการขยายธุรกิจโดยมีร้านอาหารเข้าร่วมมากขึ้น นำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลาย จนสามารถคว้ารางวัล The Seedstars Summit Pitch Corner จากการ pitching ให้กับนักลงทุนต่างชาติ ในงาน The Seedstars World Summit 2018 การแข่งขันสตาร์อัพระดับโลกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยแข่งขันกับผู้ประกอบการจากกว่า 14 ประเทศทั่วโลก และในปีเดียวกัน Hungry Hub สามารถคว้ารางวัล The winner of E-commerce ในงาน Echelon Asia Summit 2018 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ และยังติดโผ Top 10 จาก 100 Start up ทั่วเอเชียที่ได้รับคะแนนสูงสุดในงานอีกด้วย