- EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 820 ถึง 880 ล้านยูโรสำหรับทั้งปี 2020
- ยอดขายไตรมาส 3 อยู่ที่ 461 พันล้านยูโรเท่ากับลดลง 14.3 เปอร์เซ็นต์
- EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติของไตรมาส 3 อยู่ที่ 193 ล้านยูโรเท่ากับลดลง3 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว
- EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติของไตรมาส 3 อยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์
- ผลการดำเนินงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคยังคงเป็นเสาหลักของทั้งกลุ่มบริษัทแลนเซสส์
- อุปสงค์กำลังจะมีแนวโน้มฟื้นตัวในหลาย ๆ อุตสาหกรรม
- การจ่ายโบนัสพิเศษให้พนักงาน
- ประกาศเป้าหมายใหม่ในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและได้รับการจัดอันดับ ESG rating ที่ดีขึ้น
แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษประกาศว่าผลประกอบการของไตรมาส 3 ยังคงเป็นตามที่คาดการณ์ไว้แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโคโรนาไวรัส หลังจากไตรมาสที่สามผ่านไป แลนเซสส์จะสามารถยืนยันและลดช่องว่างการดำเนินงานจริง ได้ใกล้เคียงที่ประมาณการไว้ใน Guidance ของปี 2020 และขณะนี้คาดว่า EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติตลอดทั้งปีจะอยู่ระหว่าง 820 - 880 ล้านยูโร ใกล้เคียงกับก่อนหน้านี้คาดไว้ว่ารายได้จะอยู่ในช่วง 800 - 900 ล้านยูโร
"เรายังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องได้ตามเป้าหมายท่ามกลางวิกฤตโคโรนาไวรัสและใกล้จะบรรลุเป้าหมายของปีการเงิน 2020 ที่ประกาศคาดการณ์ไว้เดิมซึ่งจะประกาศผลสำเร็จอย่างเป็นทางการณ์ของทั้งปีในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ เมื่อพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ผันผวนและความไม่แน่นอนมากมายนี่ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของทีมแลนเซสส์ทั้งหมดและผมภูมิใจในสิ่งนี้มาก" กล่าวโดยคุณแมตเธียส แซกเชิร์ต (Matthias Zachert) ประธานคณะกรรมการบริหารของ LANXESS AG
แลนเซสส์ (LANXESS) จะจ่ายโบนัสพิเศษสำหรับความมุ่งมั่นที่ไม่ธรรมดาของพนักงานในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานี้ด้วย "โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมงานของเราที่ทำงานในโรงงานซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำให้ธุรกิจของเราดำเนินต่อไปได้ในช่วงวิกฤต" คุณแซกเชิร์ตกล่าว "ด้วยโบนัสนี้ เราขอขอบคุณพวกเขาและคนอื่น ๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา" โดยรวมแล้วแลนเซสส์ จะใช้เงินจำนวนหลายล้านยูโรในการนี้ โดยจะจ่ายให้พนักงานแตกต่างกัน ในเยอรมนีโบนัสพิเศษจะจ่ายให้ในเดือนธันวาคม ส่วนประเทศอื่น ๆ จะจ่ายตามระเบียบของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันไป
วิกฤตโคโรนาไวรัสยังคงส่งผลกระทบต่อตัวเลขทางธุรกิจในไตรมาสที่สาม
วิกฤตโคโรนาไวรัสยังคงส่งผลกระทบต่อตัวเลขทางธุรกิจในไตรมาสที่สาม โดยทำให้ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 193 ล้านยูโรเท่ากับลดลง 28.3 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลขของไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ได้ 269 ล้านยูโร ส่วน EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติลดลงเหลือ 13.2 เปอร์เซ็นต์เทียบกับ 15.8 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสก่อนหน้า นอกเหนือจากการแพร่ระบาดแล้ว ยังมีการปิดโรงงานในเบลเยียมเพื่อซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามแผน รวมถึงผลกระทบจากราคาขายที่ลดลงและผลกระทบจากความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ในทางตรงกันข้ามธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภค (Consumer Protection Segment) กลับยังคงพัฒนาไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากตลาดเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
"ในหลาย ๆ ธุรกิจเราเห็นข้อบ่งชี้ว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อุปสงค์ในอุตสาหกรรมของลูกค้ารายสำคัญรวมถึงภาคยานยนต์เพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกากำลังส่งสัญญาณกระตุ้นในเชิงบวก" คุณแซกเชิร์ตกล่าว
ในไตรมาส 3 นี้ยอดขายของทั้งกลุ่มแลนเซสส์มีมูลค่า 1.461 พันล้านยูโรลดลง 14.3 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลขปีก่อนที่ 1.704 พันล้านยูโร รายได้สุทธิ (Net Income) จากการดำเนินงานต่อเนื่องลดลง 68.4 เปอร์เซ็นต์จาก 79 ล้านยูโรเป็น 25 ล้านยูโร
กลุ่มธุรกิจ: กลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคยังคงเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่ง
อุปสงค์ของกลุ่มสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) มีเสถียรภาพในทั้งสองหน่วยธุรกิจย่อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองซึ่งทำให้ยอดการขายเกือบถึงระดับของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากราคาขายที่ลดลงและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นลบทำให้ยอดขายและกำไรลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ยอดขายลดลง 14.4 เปอร์เซ็นต์จาก 549 ล้านยูโรเป็น 470 ล้านยูโร มี EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 65 ล้านยูโร เท่ากับลดลง 28.6 เปอร์เซ็นต์เทียบกับ 91 ล้านยูโรของปีก่อน ส่วน EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 13.8 เปอร์เซ็นต์เทียบกับ 16.6 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังคงส่งผลกระทบต่อกลุ่มสารเติมแต่งพิเศษ (Specialty Additives) ในไตรมาสที่สาม ปริมาณการขายลดลงอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงของอุตสาหกรรมยานยนต์และการบิน ราคาขายที่ลดลงและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นลบก ยอดขายลดลง 18.5 เปอร์เซ็นต์จาก 503 ล้านยูโรเป็น 410 ล้านยูโร EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 65 ล้านยูโรเท่ากับลดลง 33.0 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับตัวเลขปีก่อนที่ 97 ล้านยูโร ส่วน EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติลดลงจาก 19.3 เปอร์เซ็นต์เป็น 15.9 เปอร์เซ็นต์
กลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภค (Consumer Protection) ยังคงเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทแลนเซสส์ เนื่องจากธุรกิจเคมีเกษตรที่แข็งแกร่งและอุปสงค์ของน้ำยาฆ่าเชื้อที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ผลงานในเชิงบวกจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท IPEL ซึ่งเป็นผู้ผลิตไบโอไซด์ของบราซิล ช่วยชดเชยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่พึงประสงค์ โดยมียอดขาย 278 ล้านยูโรถือว่าค่อนข้างมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 59 ล้านยูโรสูงขึ้น 7.3 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลข 55 ล้านยูโรของปีก่อน และ EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นถึง 21.2 เปอร์เซ็นต์เทียบกับ 19.9 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว
กลุ่มวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะในยุโรปแม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ยอดขายอยู่ที่ 285 ล้านยูโรลดลง 19.3 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลขปีก่อนที่ 353 ล้านยูโรเนื่องจากราคาขายที่ลดลงและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นลบ การปิดซ่อมบำรุงโรงงานในเบลเยียมครั้งใหญ่ตามแผนส่งผลกระทบต่อ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติ เช่นเดียวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอทำให้กำไรลดลง 44.1% จาก 59 ล้านยูโรเป็น 33 ล้านยูโร ส่วน EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 11.6 เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าตัวเลข 16.7 เปอร์เซ็นต์ที่ทำได้ในปีก่อน
แลนเซสส์ (LANXESS) ทำธุรกิจโดยปรับปรุงการดำเนินงานตามมาตรฐานด้านความยั่งยืน (Sustainability Credentials) ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากแลนเซสส์ได้ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าจะตั้งเป้าปลอดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี พ.ศ.2583 (ค.ศ.2040) บริษัทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษยังได้ตั้งเป้าหมายใหม่ในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการพิทักษ์น้ำ" (Water Stewardship Program) แลนเซสส์จะเสริมสร้างการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วยโครงการเฉพาะในท้องถิ่นในพื้นที่ 4 แห่งที่มีปัญหาเรื่องความตรึงเครียดในการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค (Water Stress) มากที่สุด จุดมุ่งหมายคือลดการถอนน้ำจากแหล่งธรรมชาติทั้งใต้ดินและบนดินมาใช้ (Water Withdrawal) ในพื้นที่เหล่านี้ลงให้ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ภายในปี พ.ศ.2566 ประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำทั่วโลกต่อไป
MSCI ESG ได้ปรับการจัดอันดับของแลนเซสส์ให้ดีขึ้นจากอันดับ BBB เป็น A เนื่องมาจากการมีกลยุทธ์ดูแลสภาพอากาศ หลักการกำกับดูแลกิจการที่กำหนดไว้เป็นอย่างดีและทุ่มเทความพยายามที่จะสร้างความปลอดภัยในการใช้สารเคมี (Chemical Safety)
แลนเซสส์ (LANXESS)
แลนเซสส์เป็นบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมสารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) มียอดรายได้รวม 6.8 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2562 และมีพนักงาน 14,400 คนอยู่ใน 33 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจหลักของแลนเซสส์ คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (Chemical Intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (Additives Chemicals) ผลิตภัณฑ์สารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) และพลาสติก แลนเซสส์เป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World) และ FTSE4Good ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lanxess.com
LANXESS China
เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2548 บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและ LANXESS Chemical (China) Co. , Ltd. ได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน LANXESS มี บริษัท ย่อย 15 แห่งศูนย์วิจัยและพัฒนา 7 แห่งและโรงงานผลิต 8 แห่งโดยมีพนักงานประมาณ 1,500 คนในประเทศจีน แลนเซสส์ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในพื้นที่เพื่อพัฒนาโซลูชันที่มุ่งเน้นตลาดที่ตอบสนองความต้องการของตลาดในท้องถิ่น