บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผยความพร้อมรองรับการฝากส่งสิ่งของผ่านเส้นทางไปรษณีย์ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดคัดแยกสำคัญของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว รองรับปริมาณสิ่งของฝากส่งในช่วงเทศกาลส่งสุขปีใหม่ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นจากปริมาณงานในช่วงเวลาปกติ นำร่องบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการส่งอาหาร สินค้าเกษตร เน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 บนสิ่งของฝากส่งทุกชิ้นตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้รับ พร้อมส่งเสริมการค้าขายระหว่างไทย-ลาว ไม่ให้สะดุดในภาวะโควิด-19 โดยจัดรถขนส่งเพื่อแลกเปลี่ยนพัสดุระหว่างประเทศกับไปรษณีย์ลาวทุกวันพุธ ศุกร์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมกับอีสานตอนบน อีสานกลาง ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ส่งผลให้ธุรกิจ e-Commerce ในพื้นที่ดังกล่าวเติบโตตามไปด้วยทั้งในด้านการค้าขายในประเทศ การค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว โดยไปรษณีย์ไทยทำหน้าที่ขนส่ง ให้พี่น้องในภาคอีสานได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรกร สินค้าหัตถกรรม เครื่องอุปโภคและบริโภคได้มากขึ้นตามไปด้วย
ด้วยปัจจัยการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ในจังหวัดอุดรธานี ส่งผลให้มีปริมาณการฝากส่งและนำจ่ายสิ่งของผ่านไปรษณีย์ไทยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2563 รวมกว่า 50 ล้านชิ้น และมีปริมาณการฝากส่งและนำจ่ายสิ่งของผ่านไปรษณีย์ไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2563 รวมกว่า 504 ล้านชิ้น แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการระงับการให้บริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ รวมถึงปลายทาง สปป.ลาว ทำให้ไปรษณีย์ไทยยังไม่สามารถขนส่งแลกเปลี่ยนถุงไปรษณีย์ระหว่างประเทศปลายทาง สปป.ลาวได้
แต่เพื่อให้การค้าขายและการสื่อสารระหว่างสองประเทศสามารถดำเนินการได้ ทางการไทย และ สปป.ลาว จึงได้มีการอนุญาตให้มีการจัดรถขนส่งนำถุงไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ปลายทาง สปป.ลาว ไปแลกเปลี่ยนกับไปรษณีย์ลาวได้ที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 โดยปัจจุบันศูนย์ไปรษณีย์อุดรธานี มีการขนส่งถุงไปรษณีย์ระหว่างประเทศ จำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในวันพุธและวันศุกร์ ซึ่งหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็จะทำการแลกเปลี่ยนถุงไปรษณีย์ได้ตามเดิม
สำหรับการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด - 19 ไปรษณีย์ไทยยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการด้านชีวอนามัย ในทุกๆ พื้นที่ โดยกำชับให้การปฏิบัติงานในทุกขั้นตอนของไปรษณีย์ไทย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าทั้งในและระหว่างประเทศมีมาตรการป้องกัน ติดตาม เฝ้าระวังอย่างรัดกุม ในด้านการให้บริการลูกค้ามีเจลล้างมือบริการที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ศูนย์ไปรษณีย์ทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้น กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาปฏิบัติงาน เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด จุดสัมผัสต่างๆ ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทุกครึ่งชั่วโมง พร้อมให้ความร่วมมือการป้องกันโควิด-19 ในทุกพื้นที่ทั่วไทย
ปัจจุบัน ปณท ได้เร่งขยายการเปิดให้บริการส่งสิ่งของไปยังต่างประเทศด้วยบริการ EMS World ePacket ไปรษณียภัณฑ์ และพัสดุไปรษณีย์ จากการที่สายการบินต่างๆ ได้ทยอยกลับมาเปิดให้บริการ โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบประเทศปลายทางที่สามารถส่งสิ่งของได้ที่เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th ซึ่งไปรษณีย์ไทยตระหนักถึงความสำคัญช่วงปลายปี จะมีประชาชนส่งของขวัญให้กันในช่วงคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีปริมาณสิ่งของฝากส่งเพิ่มมากขึ้นโดยไปรษณีย์ไทยได้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ด้วยบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น เช่น บริการรับฝากนอกที่ทำการ หรือ Pick-Up Service มี LINE Official @ThailandPost ที่สามารถติดตามสถานะสิ่งของ ค้นหาไปรษณีย์ใกล้บ้าน เรียกใช้บริการ Pick-Up Service สร้างใบจ่าหน้าเตรียมการฝากส่ง
รวมถึงมีล่าสุด ไปรษณีย์ไทยให้บริการขนส่งสิ่งของด้วยรถยนต์ควบคุณอุณหภูมิเพื่อขนส่งอาหาร ผลผลิตทางการเกษตร และของสดอื่นๆ ให้กับผู้ใช้บริการได้ส่งสิ่งของสดใหม่ และคงคุณภาพดีจนถึงผู้รับปลายทาง โดยนำร่องให้บริการที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคายเป็นแห่งแรก นายก่อกิจ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @ThailandPost