โอมิเซะร่วมกับอีเว้นท์ป็อบประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม
อีคอมเมิร์ซใหม่ "เอสิโม่" พร้อมให้บริการธุรกิจในประเทศไทยต้นปี 2564
กว่า 7 ปีที่ผ่านมา โอมิเซะเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในแวดวงธุรกิจในฐานะผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน (payment gateway) ชั้นนำในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ
ประเทศญี่ปุ่น การเปิดตัวแพลตฟอร์ม
อีคอมเมิร์ซใหม่นี้เป็นครั้งแรกที่ทางโอมิเซะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มขึ้นจากฟังก์ชันด้านการรับชำระเงิน ขยายออกสู่บริการด้านดิจิทัลคอมเมิร์ซที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ส่วนอีเว้นท์ป็อปมาพร้อมกับประสบการณ์ด้าน
อีคอมเมิร์ซ การสร้างแพลตฟอร์ม และการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งผ่านการใช้งานจริงมาแล้วกว่า 10,000 อีเว้นท์
เอสิโม่ (Esimo) จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการ แบรนด์สินค้า เจ้าของธุรกิจต่างๆ ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ให้สามารถจัดการทุกส่วนของการจำหน่ายสินค้า/บริการออนไลน์ได้เอง ตั้งแต่สร้างหน้าเว็บไซต์ บริหารการขายในแต่ละวัน รวมไปถึงการโปรโมทธุรกิจ ทั้งหมดสามารถทำจากแพลตฟอร์มเอสิโม่เพียงที่เดียว ในช่วงต้นปีหน้า ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ดังต่อไปนี้:
- เครื่องมือสำหรับสร้างหน้าเว็บไซต์ เทมเพลตดีไซน์สำเร็จรูป และระบบตะกร้าสินค้า (shopping cart)
- ระบบบริหารจัดการออเดอร์ตามสถานะรายการสั่งซื้อ
- ระบบรับชำระเงินโอมิเซะที่ติดตั้งมากับแพลตฟอร์มพร้อมใช้
- ระบบบริหารจัดการสต็อก (ค้าขายหลายๆ ช่องทางใช้ระบบนี้เป็นระบบศูนย์กลางได้เลย)
- ระบบขนส่งสินค้าโดยผู้ให้บริการชั้นนำในประเทศไทย
- ระบบช่วยส่งเสริมการขายอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ระบบจดจำสินค้าในตะกร้า (abandoned cart recovery) เป็นต้น
- เครื่องมือสำหรับช่วยทำการตลาด จัดโปรโมชัน โค้ดส่วนลด และมีฟังก์ชันอื่นๆ เข้ามาเติมเต็มให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในอนาคต
"ปี 2563 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับหลายๆ ธุรกิจ เป็นปีแห่งการปรับตัว ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาธุรกิจจำเป็นต้องพาตัวเองเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้น ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ ได้เห็นถึงความสำคัญของการมีระบบการทำงานที่คล่องตัว (agility) ช่วยให้ปรับตัวได้เร็ว รวมถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ" คุณอิศราดร หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโอมิเซะกล่าว "พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตประจำวัน แต่รวมไปถึงวิถีเดิมๆ อย่างการจับจ่ายใช้สอย จึงเห็นได้ว่าในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา
อีคอมเมิร์ซกลายมาเป็นหนึ่งในช่องทางหลักในการซื้อและมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก"
ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์และเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ ที่นำพาธุรกิจสู่ digital transformation ได้รับความนิยมอย่างสูง เมื่อเปรียบเทียบจำนวนร้านค้าออนไลน์ที่สมัครและเริ่มใช้งานระบบรับชำระเงินโอมิเซะในช่วงไตรมาสที่หนึ่งและสองของปี 2562 กับช่วงเดียวกันของปี 2563 พบอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 83 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้แล้วรายงานจาก McKinsey Global Payments Report 2020 ยังพบว่าอัตราการสมัครใช้บริการตลาดขายสินค้าออนไลน์ (marketplace) ทั่วโลกเพิ่มขึ้นสูงราว 70 ถึง 150 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัส การปรับตัวสู่
อีคอมเมิร์ซและการรับชำระเงินออนไลน์ไม่เพียงแต่เติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักๆ อย่างแฟชั่นและสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจกลุ่มสุขภาพ (healthcare), บริการเฉพาะทาง (professional services) และการศึกษา (education) ด้วย
"ทรัพยากรที่สามารถช่วยให้ธุรกิจปรับตัวมาทำออนไลน์ได้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก เอสิโม่จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้ธุรกิจเริ่มต้นค้าขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองได้เร็ว บทบาทของโอมิเซะต่อธุรกิจ
อีคอมเมิร์ซกำลังจะค่อยๆ เปลี่ยนไป โดยจะเป็นมากกว่าผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน และเอสิโม่ก็คือก้าวถัดไปของเรา" คุณอิศราดรกล่าวเสริม
"อีเว้นท์ป็อปเชื่อว่าเทคโนโลยีคุณภาพจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ไปโฟกัสกับลูกค้าและเรื่องสำคัญอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่" คุณภัทรพร โพธิ์สุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งอีเว้นท์ป็อปกล่าว
เอสิโม่เป็นแพลตฟอร์มที่ตั้งใจพัฒนาขึ้นเพื่อให้ร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ที่ไม่มีทีมนักพัฒนาระบบเป็นของตัวเอง ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถที่จะสร้างเว็บไซต์
อีคอมเมิร์ซและค้าขายออนไลน์ได้เอง ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งระบบเพิ่ม ส่วนธุรกิจแบบที่มีความต้องการพิเศษ (customized solution) ต้องการจะนำเอสิโม่ไปปรับใช้ให้ตรงตามความต้องการขององค์กรมากขึ้นก็สามารถเลือกนำเอา API ไปใช้งานต่อเองได้เช่นกัน
เอสิโม่จะเริ่มให้บริการในประเทศไทยในช่วงต้นปี 2564 ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า ทีมโอมิเซะจะติดต่อกลับทันทีที่แพลตฟอร์มเริ่มให้บริการ
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอสิโม่ได้ที่ https://www.omise.co/th/esimo/thailand หรือโทร. 02 252 8777 (ทุกวันระหว่างเวลา 08:00 ถึง 20:00 เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)