กลุ่มบริษัท วี คาร์โก ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท สั่งซื้อรถรองรับการขยายตัวของลูกค้า
- เตรียมพร้อมซื้อรถเพิ่ม 92 คัน รองรับนโยบาย "โตไปด้วยกัน"
- คว้าสัญญาใหม่จากองค์การเภสัช และรับงานเพิ่มจาก ซีพี ออล กับ โฮมโปร
กลุ่มบริษัท วี คาร์โก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำชาวไทย ทุ่มงบลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาท ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยสั่งซื้อรถหัวลาก 29 คัน รถกระบะ 42 คัน และรถกระบะจัมโบ้ 21 คัน เพื่อรองรับงานใหม่และการขยายงานของลูกค้า โดยการลงทุนครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้
นายอุดม ศรีสงคราม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท วี คาร์โก เปิดเผยว่าขณะนี้ วี คาร์โก เร่งเพิ่มเติมรถหัวลาก 29 คัน รถกระบะ 42 คัน และรถกระบะจัมโบ้ 21 คัน รวม 92 คัน เพื่อรองรับกับงานใหม่ที่ชนะการประมูลในโครงการจัดส่งเวชภัณฑ์ทั่วประเทศให้กับองค์การเภสัช และส่วนขยายงานเพิ่มของกลุ่มซีพี ออล (7-11) และกลุ่มโฮมโปร
นายอุดมกล่าวว่าโครงการจัดส่งเวชภัณฑ์ทั่วประเทศให้กับองค์การเภสัช ถือเป็นการเริ่มสัญญาใหม่ทดแทนสัญญาเดิมที่สิ้นสุดไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยรับขนเวชภัณฑ์จากสำนักงานใหญ่ขององค์การเภสัช ถนนพระราม 6 เพื่อจัดเก็บเข้าคลังสินค้าที่บางบัวทองและกระจายเวชภัณฑ์ไปยังโรงพยาบาลและคลีนิคใน 26 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งรถที่ใช้ขนส่งสินค้าประเภทเวชภัณฑ์ จะต้องเป็นรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ
นอกจากนี้ วี คาร์โก ยังได้รับมอบหมายให้ทำการขนส่งเวชภัณฑ์จากส่วนกลางไปยังศูนย์กระจายสินค้าขององค์การเภสัชที่ภาคเหนือ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการกระจายเวชภัณฑ์จากศูนย์กระจายสินค้าที่จังหวัดอุดรธานีไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้จะต้องใช้รถทั้งสิ้น 55 คัน โดยแบ่งเป็นรถบรรทุกหัวลาก 10 ล้อจำนวน 22 คัน รถกระบะและกระบะจำโบ้ รวม 33 คัน
มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าในทุกรูปแบบ
"วี คาร์โก ได้รับความไว้วางใจจากองค์การเภสัชให้รับผิดชอบด้านการขนส่งเวชภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขนส่งเวชภัณฑ์นั้น มีความละเอียดอ่อนอย่างมากเพราะนอกจากจะต้องรักษาคุณภาพของเวชภัณฑ์ไม่ให้เกิดความเสียหายจากการขนส่งแล้ว ยังจะต้องขนส่งให้ได้ตามเวลาที่กำหนดเพราะมีผู้ป่วยและคุณหมอทั่วประเทศรอรับยาและเวชภัณฑ์ที่เราขนส่งให้ ทุกวินาทีหมายถึงชีวิตของผู้ป่วยที่รอรับการรักษาจากคุณหมอ เราจึงเน้นในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานให้ได้ตามความต้องการขององค์การเภสัช ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เราให้บริการนี้แก่องค์การเภสัช เมื่อสัญญาหมดลง เราจึงเข้าร่วมประมูลและชนะผู้เข้าร่วมประมูล จึงทำให้เรามั่นใจว่าคุณภาพและราคาของเรา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า" นายอุดม กล่าว
ขยายฝูงรถให้บริการกระจายสินค้ากับ ซีพีออล
นายอุดม กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้ วี คาร์โก ยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มซีพี ออล หรือ 7-11 ให้ทำการเพิ่มฝูงรถที่ให้บริการขนส่งสินค้าไปยังศูนย์กระจายสินค้าของ 7-11 อีก 20 คันโดยเป็นรถกระบะจัมโบ้ทั้งหมด ซึ่งเป็นงานเพิ่มเติมที่ได้รับมอบหมายจาก 7-11 โดยคำสั่งซื้อในสัญญาที่ได้ลงนามไปก่อนหน้านี้ วี คาร์โก ได้สั่งซื้อรถหัวลาก 10 ล้อจำนวน 20 คันเพื่อรับงานด้านขนส่งสินค้าจากคลังสินค้านพวงศ์ จังหวัดนครปฐมไปยังศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ
วี คาร์โก กรุ๊ป ได้ร่วมงานกับ 7-11 มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โดยช่วงที่ผ่านมา บริการที่ให้กับ 7-11 คือการขนส่งสินค้าไปยังร้าน 7-11 ในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งใช้รถบรรทุกขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง ซึ่งนอกจากราคาที่ วี คาโก กรุ๊ป สามารถแข่งขันได้แล้ว คุณภาพการให้บริการ ยังเป็นที่ยอมรับของ 7-11 มาตลอด
"ผมมีความภูมิใจกับการร่วมงานกับ 7-11 เป็นอย่างมากเพราะ 7-11 เขาไม่เคยทอดทิ้งเราซึ่งเป็นผลจากการที่เราดูแลเขาให้ดีที่สุดเช่นเดียวกับลูกค้าทุกราย เราแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วในทุกครั้งที่ลูกค้าต้องการจนทำให้เราได้รับรางวัล 'เราโตไปด้วยกัน' จาก 7-11 ซึ่งคำว่าเราโตไปด้วยกันนั้น ผมได้นำไปใช้กับลูกค้าทุกรายเพราะเราจะโตได้ก็ต่อเมื่อลูกค้าเราโตก่อน เราถึงจะโตตามลูกค้า" นายอุดม กล่าวเพิ่มรถบรรทุกเพื่อรองรับการเติบโตของโฮมโปร
นายอุดม กล่าวถึงการขยายงานเพิ่มเติมของกลุ่มโฮมโปรที่ต้องการให้ วี คาร์โก เพิ่มรถอีก 17 คันโดยแบ่งเป็นรถบรรทุกหัวลาก 10 ล้อ จำนวน 7 คันเพิ่มเติมจากสัญญาว่าจ้างเดิมที่ต้องสั่งซื้อรถบรรทุกหัวลากจำนวน 33 คันเมื่อเร็ว ๆ นี้ และรถกระบะอีก 10 คัน ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มโฮมโปร
"ผมอยากจะย้ำว่า วี คาร์โก ถือเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำที่เป็นของคนไทย 100% ที่นับวันจะเหลือน้อยลงไปทุกที แต่เรายังยืนหยัดอยู่ได้อย่างมีอนาคตเพราะแนวคิดว่าเราจะโตไปด้วยกันกับลูกค้าด้วยการให้บริการที่ดี มีมาตฐานสากล ด้วยระบบดิจิตอลและไซเบอร์ที่รองรับความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงราคาที่ลูกค้าสามารถนำไปสร้างผลกำไรสำหรับสร้างองค์กรของลูกค้าทุกรายให้แข็งแรง และขยายงานในทุกโอกาส และเราก็จะได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากลูกค้าให้โตไปพร้อมกับลูกค้า" นายอุดม กล่าว