สหไทย เทอร์มินอล (PORT) หนึ่งในผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจร เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนไตรมาส 3 ปี 2563 รายงานผลการดำเนินงานกำไรสุทธิเติบโต QoQ 182.07 % หรือเพิ่มขึ้น 15.64 ล้านบาท เชื่อมั่นพื้นฐานศักยภาพแกร่ง ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว พร้อมเดินหน้าลงทุนท่าเรือแห่งที่ 3 และคลังสินค้าใหม่
คุณวรวิทย์ เอื้อทรัพย์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวว่า "สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563 ซึ่งบริษัทฯมีรายได้รวม 341.25 ล้านบาท ลดลง11.87% จากรายได้รวม 387.22 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 92.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 24.23 ล้านบาท ลดลง 17.91% จากกำไรสุทธิ 29.51 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ไตรมาส 3 ปี 2563 เท่ากับ 23.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2563 ที่มีกำไรสทุธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯเท่ากับ 7.97 ล้านบาท ซึ่งทั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชี้ชัดว่า ผลประกอบการของบริษัทฯได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และวิกฤติเศรษฐกิจโลก
คุณบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวเสริมว่า "ผลการดำเนินงานเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ปี 2563 หลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในไตรมาส 3 เติบโตจากรายได้จากบริการขนส่งทางบกและรายได้จากธุรกิจคลังสินค้าเป็นปัจจัยหลัก สำหรับสถานการณ์ในไตรมาส 4 ปี 2563 เกิดการปรับเปลี่ยนช่องทางการขนส่งโดยตู้คอนเทนเนอร์ถูกส่งไปยังประเทศกลุ่มทรานซ์แปซิฟิก ซึ่งมีปริมาณการค้ากับสหรัฐอเมริกาสูง เช่น จีนและเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตามจากการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด บริษัทฯยังคาดการณ์ว่าในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะปรับตัวลงลด 10% ได้ตามเป้าหมาย และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดีขึ้นต่อเนื่องก็คาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทฯจะกลับมาดีขึ้นในปี 2564 ราว 10 - 20% โดยยังเน้นกลยุทธ์ในการให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง"
และยังกล่าวต่อไปว่า "บริษัทฯยังคงเดินหน้าโครงการใหม่ทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2564 ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมที่คาดว่าจะเปิดปลายปี 2563 จากผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคไวรัสทำให้ต้องชะลอการเปิดดำเนินการ โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย และโครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ผ่าน บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal) ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2564 ซึ่งทั้ง 2 โครงการนอกจากจะช่วยในการเติบโตและขยายฐานของบริษัทฯให้ใหญ่ขึ้น ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจอีกด้วย"
บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบ วงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการตั้งแต่ 1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) 2.ธุรกิจการให้บริการขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง 3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4.ธุรกิจการให้บริการ เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น