การ "เสริมหน้าอกส่องกล้อง โดยไม่มีสายเดรน" เป็นวิธีการผ่าตัดที่ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก แต่จริงๆ เป็นเทคนิคที่มีมานานแล้วตั้งแต่ยุค 70 แต่ที่ผ่านมาแพทย์นำเอามาใช้กับการผ่าตัดรักษาทางการแพทย์ ซึ่งในปัจจุบัน เทคนิคส่องกล้องนำเอามาปรับใช้กับเชิง Aesthetic มากขึ้น โดยเทคนิคส่องกล้องเปิดแผลบริเวณรักแร้ ถือได้ว่าเป็นทางเลือกการผ่าตัดที่ยากกว่าเทคนิคอื่นมาก ซึ่งแพทย์จะต้องผ่านการฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์มามากพอสมควรถึงสามารถใช้ประโยชน์จากการส่องกล้องให้ได้ผลลัพธิ์ที่พึงพอใจ
การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้องคืออะไร?
คือการผ่าตัดโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Endoscopic Surgery ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นสองส่วน คือ
แพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดผิวหนังบริเวณใต้รักแร้ (ข้อดีของการเปิดแผลที่รักแร้) ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้วสอดกล้อง Endoscopic เข้าไป โดยภาพจะถูกส่งผ่านกล้องมายังจอมอนิเตอร์ ซึ่งแพทย์จะสามารถจำแนกชั้นของกล้ามเนื้อและไขมันได้อย่างแม่นยำ ลดโอกาสเสี่ยงของการตัดโดนเส้นเลือดใหญ่และอวัยวะสำคัญ เสริมหน้าอกส่องกล้องจะช่วยให้คนไข้มีแผลขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเดิมที่ไม่มีอุปกรณ์ เนื่องจากแพทย์สามารถมองเห็นด้านในได้ชัดเจนโดยเปิดแผลให้พอดีกับการใส่ถุงซิลิโคน ไม่เปิดมากเกินไป อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการหดรั้งรอบถุงซิลิโคนหลังการเสริมหน้าอก และฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย และเลือดออกน้อยลง
ซึ่งการผ่าตัดโดยไม่ใช้เทคนิคส่องกล้องสามารถเรียกได้ว่าเป็นการผ่าตัดแบบคาดเดา "Blind Surgery" เพราะการเสริมหน้าอก แพทย์จะไม่ทราบเลยว่าชั้นของกล้ามเนื้อที่แน่นอน เส้นเลือดใหญ่ และอวัยวะที่สำคัญอยู่บริเวณไหน ซึ่งยิ่งถ้าหากเสริมใต้กล้ามเนื้อโดยไม่เห็นด้านในแล้ว จะเพิ่มความเสี่ยงสูงมากทีจะตัดโดนเส้นเลือดใหญ่ที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่แพทย์ส่วนใหญ่เลือกวิธีการผ่าตัดแบบเหนือกล้ามเนื้อและเปิดแผลใต้ราวนม เพราะช่วยลดความเสี่ยงที่จะโดนเส้นเลือดและอวัยวะสำคัญ ประกอบกับการจัดทรงซิลิโคนที่ง่ายและสวยทันทีเมื่อสอดซิลิโคนจากด้านล่าง แต่ข้อเสียของการเสริมไว้เหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular Plane) และผ่าบริเวณใต้ราวนมนั้นมีเยอะมาก (Imflammamory Crease) เช่น หลังเสริมหน้าอกไปในระยะหนึ่ง ผิวหน้าอกจะเป็นริ้วและคลื่น (Capsular Contraction) เนื่องจากชั้นของไขมันไม่ใช่ชั้นที่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง จึงทำให้ผังผืดขึ้นคลุมรอบซิลิโคนได้ง่าย, ขอบซิลิโคนเห็นชัดเจนเพราะไม่มีกล้ามเนื้อห่อหุ้มทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ (ข้อเสียของการเสริมซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ)
ข้อดีของการเสริมหน้าอกส่องกล้องยังมีอีกมากมาย เช่น ช่วยสร้างช่องหน้าอกหรือ Pocket ในการใส่ถุงซิลิโคนได้พอดีกับขนาดความกว้างของฐานซิลิโคน ซึ่งถ้าหากช่องนี้มีขนาดเล็กจนเกินไปหรือตื้นจนเกินไป จะทำให้ซิลิโคนลอยอยู่ด้านบนสูงกว่าระดับของทรวงอกปกติ (High - Riding) ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนถึง 1 ปี และต้องนวดเพื่อให้ซิลิโคนเข้าที่อีกด้วย เสริมหน้าอกส่องกล้องยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการใส่ซิลิโคนให้ถูกด้านและมุมอีกด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์มากกับคนไข้ที่มีความจำเป็นต้องใส่ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ซึ่งซิลิโคนประเภทนี้มีราคาสูงเนื่องจากความเสี่ยงของซิลิโคนพลิกจากบนลงล่างหรือหน้ากลับหลังมีมากกว่าทรงกลม ซึ่งเทคนิคส่องกล้องสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ ก็มีอยู่ทั้งหมด 2 แบบ คือใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด (Submuscular) และใต้กล้ามเนื้อบางส่วน (Dual Plane) ซึ่งจะใช้แตกต่างกันไปในแต่ละเคส คนไข้ที่ต้องการยกกระชับควรใช้วิธีการเสริมหน้าอกแบบใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด ส่วนคนไข้ที่ไม่มีเนื้อหน้าอกเลย ต้องการได้หน้าอกทรงหยดน้ำธรรมชาติ อาจจะเลือกใช้วิธีการผ่าตัดแบบ Dual Plane หรือใต้กล้ามเนื้อบางส่วนนั่นเอง ซึ่งเทคนิคส่องกล้องจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการแยกชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมันออกจากกัน ซึ่งจะให้แพทย์ทำงานง่ายและรวดเร็ว
สายเดรนคืออะไร?
เป็นเครื่องมือที่ช่วยระบายเลือดหรือของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายหลังการผ่าตัดที่มีอาการเลือดซึมมากในเวลาผ่าตัด ก่อนจะปิดแผล แพทย์จะใส่เดรนให้กับคนไข้ เพื่อระบายน้ำเหลือง เลือดที่อาจยังมีซึมอยู่ จากแผลในตัวคนไข้นั่นเอง ซึ่งสายเดรนจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อหลังผ่าตัดค่อนข้างสูง
"My Way Surgery"
การเสริมหน้าอกที่ Dr. Alex Aesthetic Clinic เป็นการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อและเลือกผ่าตัดบริเวณใต้รักแร้ (ข้อดีของแผลผ่าตัดที่รักแร้) การผ่าตัดด้วยเทคนิคและวิธีนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดพังพืดและลดการหย่อนคล้อยของซิลิโคนหน้าอกในอนาคต รอยแผลผ่าตัดบริเวณรักแร้จะถูกซ่อนไว้ใต้รอยพับของรักแร้ (ข้อดีของการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ) และที่สำคัญแพทย์เลือกการผ่าตัดโดยใช้วิธีการส่องกล้อง ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัด เพิ่มความแม่นยำในการใส่ซิลิโคน เนื่องจากการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อมีความเสี่ยงสูงมากในการที่จะสัมผัสโดนอวัยวะของร่างกายส่วนอื่นหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ และถ้าหากอุปกรณ์สามารถช่วยให้แพทย์ทำงานเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น อาการเลือดซึม อาการบวม อาการปวดจะแทบไม่มี ซึ่งจะทำให้หลังผ่าตัดไม่จำเป็นต้องใช้สายเดรนระบายเลือดอีกต่อไป
ก่อนที่จะทำการผ่าตัด แพทย์จะต้องทำการตรวจค่าการแข็งตัวและค่าเคมีต่างๆในเลือดของผู้รับบริการ เมื่ออยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยจึงจะทำการผ่าตัดได้ ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยลดปัญหาการเกิดเลือดซึมได้เป็นอย่างมาก การผ่าตัดจะต้องทำโดยแพทย์ที่ประสบการณ์และผ่าตัดอย่างระมัดระวัง เพื่อลดโอกาสเกิดอันตรายต่อหลอดเลือดใหญ่ และความปลอดภัยของคนไข้
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.alex-clinic.com/
Fanpage Facebook: Dr.Alex aesthetic clinic
โทร : 080-1515666