นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันบังคับใช้กฎหมายและลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ต้นเหตุว่า กรุงเทพมหานครติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 เขต ตรวจตรา สอดส่องดูแลมิให้มีการลักลอบเผาขยะในที่สาธารณะและที่เอกชน พร้อมตรวจสถานประกอบการไม่ให้ประกอบกิจการปล่อยควันเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนกำชับไซต์งานก่อสร้างให้ล้างล้อรถทุกคันก่อนออกจากไซต์งาน และประชาสัมพันธ์มิให้มีการจอดรถโดยติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมควบคุมมลพิษ เพิ่มความเข้มงวดตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท พร้อมแนะนำการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ อีกทั้ง ประสานสถานีตำรวจท้องที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรหรือจัดการจราจรให้คล่องตัวลดการสะสมฝุ่นละอองจากควันรถยนต์ รวมทั้งให้เพิ่มความถี่ในการล้าง ดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างใบไม้
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายสำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย จัดหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อให้บริการตรวจรักษา ให้คำปรึกษา และให้ความรู้ในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมจัดเตรียมเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันและให้คำแนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องแก่ประชาชน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หากพบฝุ่นละออง PM 2.5 เกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันมากกว่า 3 วัน โดยสั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด กทม. เปิดคลินิกมลพิษทางอากาศ ได้แก่ โรงพยาบาลตากสิน (วันจันทร์-วันอังคาร เวลา 13.00 - 15.30 น.) โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (วันพุธ เวลา 13.00 - 15.30 น.) และโรงพยาบาลกลาง (วันพฤหัสบดี เวลา 13.00 - 15.30 น.) รวมทั้งให้บริการ Hotline 1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบปัญหาและให้คำปรึกษาเรื่องโรคที่มีสาเหตุจากฝุ่นละออง หากต้องการปรึกษาแพทย์จะประสานต่อสายผ่านไปยังศูนย์ BFC : Bangkok Fast & Clear ศูนย์บริหารราชการฉับไว ใสสะอาด ของแต่ละโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อนัดพบแพทย์ต่อไป