MTC คว้า 2 รางวัลใหญ่ "ASEAN CG Scorecard (ACGS)" ปี 2562 ติดอันดับ 1 ใน 42 บจ.ไทยที่ได้คะแนนด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีตั้งแต่ 97.50 คะแนนขึ้นไป ทัดเทียมมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับจากผู้ลงทุนนานาประเทศ ล่าสุดได้คัดเลือกเข้ารับรางวัลสู่กลุ่มหุ้นยั่งยืน ปี 63 ฟาก"ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ประธานกรรมการบริหาร ระบุ ถือเป็นรางวัลที่ยกระดับคุณภาพโดดเด่น CG ยอดเยี่ยม สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบัน และผู้ถือหุ้น ช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน มั่นใจผลงานปี 63 โตเข้าเป้า 20-25% จากปีก่อน
นาย ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้รับรางวัล "ASEAN Asset Class PLCs 2019" หรือ รางวัลบริษัทจดทะเบียนที่ได้คะแนน ASEAN CG Scorecard ตั้งแต่ 97.50 คะแนนขึ้นไป ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทฯ เป็น 1 ใน 42 บริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว
สำหรับรางวัล ASEAN CG Scorecard ริเริ่มโดย ASEAN Capital Market Forum (ACMF) ซึ่งเกิดจากการสนับสนุนของ ก.ล.ต. ในอาเซียน และธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียน ให้ทัดเทียมมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับจากผู้ลงทุนนานาประเทศ
ทั้งนี้ เกณฑ์การประเมินพัฒนามาจากหลักเกณฑ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) 5 หมวด โดยประเมินจากข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยต่อสาธารณะ รวมถึงกระบวนการตรวจสอบคะแนนจากประเทศอื่น (Peer review) เพื่อให้มั่นใจว่าทุกประเทศมีมาตรฐานการประเมินสอดคล้องกัน
ขณะเดียวกัน ล่าสุด MTC ได้รับรางวัล"หุ้นยั่งยืน"ประจำปี 2563 (Thailand Sustainability Investment 2020 หรือ THSI ) ซึ่งได้รับรางวัลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล อีกด้วย
"การที่ MTC ได้รับรางวัล 2 ประเภทในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของบริษัทฯให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกให้การยอมรับ ดังนั้นจะทำให้หุ้นอยู่ในสายตาของสถาบันมากขึ้น และมีโอกาสจะเพิ่มสัดส่วนการถือครองสูงขึ้น ส่งผลให้มีเสถียรภาพ มีความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยทำให้ประสิทธิภาพควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น เมื่อมีคะแนน CG ระดับที่ดี สนับสนุนการเติบโตได้อย่างยั่งยืน"
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง และสนับสนุนให้ผลงานในปี 2563 เติบโตในระดับ 20-25% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากการขยายตัวสินเชื่อเพิ่มขึ้น และจำนวนสาขามากขึ้น ขณะที่ทางด้านหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บริษัทฯจะควบคุมไม่ให้เกิน 1.5% โดยแนวโน้ม NPL ยังไม่ได้เพิ่มสูงเกินกว่าความสามารถในการบริหารจัดการของบริษัท