ไบเออร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการทั่วไปแผนกฟาร์มาซูติคอลคนใหม่ ประจำประเทศไทย

คุณจินอา ลี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด และผู้จัดการทั่วไปแผนกฟาร์มาซูติคอล มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563 มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลกำหนดทิศทางกลยุทธ์ และการบริหารธุรกิจด้านสุขภาพและเกษตรกรรมในประเทศไทย

คุณจินอามีประสบการณ์การทำงานในธุรกิจด้านเภสัชกรรมมากว่า 27 ปี ก่อนหน้าที่เข้าร่วมงานกับไบเออร์ คุณจินอาทำงานร่วมกับบริษัทด้านเภสัชกรรรมชั้นนำระดับโลกในประเทศเกาหลี ได้แก่ บริษัท โรช และเมอร์ค ในตำแหน่งสำคัญๆ อาทิ การขึ้นทะเบียนยา ฝ่ายการแพทย์ ฝ่ายการตลาด และฝ่ายการขาย โดยความรับผิดชอบครอบคลุมทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ต่อมาได้เข้าร่วมงานกับไบเออร์ ในประเทศเกาหลี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ในตำแหน่งหน้าสูงสุดแผนก Heart Health และยังได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบดูแลและบริหารงานสำคัญต่างๆ รวมถึงการรับตำแหน่ง New Launching Brand Lead ที่ไบเออร์ สำนักงานใหญ่ ประเทศเยอรมนี ก่อนที่จะย้ายกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสูงสุดแผนก Heart Health ที่ไบเออร์ ประเทศเกาหลี ซึ่งคุณจินอาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตให้กับบริษัทมาโดยตลอด จนได้ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดที่ไบเออร์ ประเทศไทย

คุณจินอา สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรีเภสัชศาสตรบัณฑิต จาก Duksung Women's University และปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จาก Korea University ปัจจุบันเป็นกำลังศึกษาระดับปริญญาเอกในสาขาเภสัชระบาดวิทยา (PhD Candidate in Pharmacoepidemiology) ที่ Sunggyunkwan University

เกี่ยวกับไบเออร์
ไบเออร์เป็นบริษัทระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญหลักในด้านชีววิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและโภชนาการ ผลิตภัณฑ์และบริการของไบเออร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยผู้คนในการก้าวข้ามอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับประชากรโลกที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นและมีประชากรสูงอายุมากขึ้น พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้มุ่งเป้าในการเพิ่มรายได้และสร้างคุณค่าจากนวัตกรรมใหม่ๆ และการเติบโต ไบเออร์ได้ยึดมั่นในหลักการในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในด้านความเชื่อถือ ความไว้วางใจ และคุณภาพในระดับโลก ในปีงบประมาณ 2562 บริษัทมีพนักงานกว่า 104,000 คน และมียอดขายที่ 43,500 ล้านยูโร โดยมีรายจ่ายการลงทุน 2.9 พันล้านยูโร และค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา 5.3 พันล้านยูโร หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.bayer.com