นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายกับกรมวิชาการเกษตรให้เน้นงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชเพื่อจะได้สามารถทดแทนการนำเข้าพันธุ์จากต่างประเทศและเป็นความมั่นคงด้านอาหารของชาติ รวมถึงการนำงานวิจัยมาต่อยอดเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรและประชาชน ทั้งการแปรรูปเป็นอาหาร เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ ซึ่งนำมาสู่งานวิจัยที่กินได้ และอนาคตอาจสามารถผลิตเป็นสินค้าที่สร้างรายได้สูงให้กับประเทศ ซึ่งจะส่งเสริมให้มีงบประมาณสำหรับมาสนับสนุนงานด้านนี้เพิ่มกว่าปีที่ผ่านมา
รมช.เกษตรฯกล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรเป็นหัวใจสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่เหมือนกับการปิดทองหลังพระไม่มีใครทราบ เช่นหญ้าหวานที่กรมวิจัยพัฒนาจนเอกชนนำมาต่อยอดจำหน่าย ดังนั้นในปีต่อไปจะช่วยส่งเสริมงานวิจัยให้มากขึ้นเพราะการที่จะได้ผลผลิตที่ดีก็ต้องมาจากพันธุ์ที่ดี รวมถึงงานวิจัยพืชไร่ พืชสวน และอื่นๆที่มีออกมา ซึ่งตนเองพร้อมจะเป็นคนนำผลิตภัณฑ์หรืองานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรออกมาเสนอต่อภาคประชาสังคมให้เพิ่มมากขึ้น
"ในการลงพื้นที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ที่ขุนวางและแม่จอนหลวง กรมวิชาการเกษตร พบว่ามีพืชหลายชนิดที่จะส่งเสริมต่อยอด เช่นการพัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่งเพื่อลดการนำเข้าซึ่งแต่ละปีนำเข้าประมาณ 5,000-6,000 ตัน หรือประมาณ 65% ผลิตในประเทศได้ 35% ซึ่งกรมวิชาการเกษตรมีศักยภาพผลิตได้ประมาณ 5-7% นอกจากนั้นยังมีมะคาเดเมียที่สามารถนำมาแปรรูปผลิตเป็นน้ำมันบำรุงผิว ในขณะที่กลุ่มเวชภัณฑ์พบว่ามีการวิจัยพืชสมุนไพรหลายชนิดมาก บางชนิดสามารถต่อยอดการวิจัยเพื่อป้อนตลาดสมุนไพรของประเทศได้เช่น มะแขว่น ที่นิยมใช้ทำอาหารผสมในเครื่องปรุงหม่าล่า แต่ของไทยจะมีกลิ่นหอมเพิ่มเติมจากรสเผ็ด ยาหม่องน้ำมันมะแขว่น ซึ่งสามารถที่จะผลิตเป็นเครื่องยาและเครื่องหอมได้อีกด้วย โดยหากสามารถวิจัยได้สำเร็จไทยจะสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจากพืชกลุ่มสมุนไพรในอนาคต" นางสาวมนัญญากล่าว
ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนางานวิจัยอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีข้อจำกัดจากเรื่องกำลังคนและงบประมาณ แต่ทั้งนี้หน้าที่สำคัญคือการพัฒนางานวิจัยเพื่อรองรับความมั่นคงด้านอาหาร และด้านเมล็ดพันธุ์ ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละปีกรมวิชาการเกษตรจะมีการเปิดจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์ ให้กับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร หรือประชาชนที่สนใจในราคาที่เหมาะสม โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดในหน้าเว็บไซด์ของกรมวิชาการเกษตรว่าสามารถหาซื้อได้ในจังหวัดที่อยู่ใกล้บ้าน เช่น พันธุ์ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว ถั่วเหลือง พันธุ์ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น