เอกชนหนุนภารกิจ กพร. มอบแอร์มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท Up Skill แรงงาน

ข่าวทั่วไป Tuesday December 22, 2020 08:33 —ThaiPR.net

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานรับมอบเครื่องปรับอากาศจากบริษัท มาเวลคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศ ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท มาเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้นโยบายการสนับสนุนเครื่องปรับอากาศ เพื่อการพัฒนาฝีมือแรงงาน จำนวน 90 ชุด มูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำไปใช้ประโยชน์ในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขาช่างเครื่องปรับอากาศ โดยมีนายปริญญา มานวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เป็นผู้ส่งมอบ ในงานเส้นทางสู่ความสำเร็จ (Road To Success 2012) ณ ห้องฟอร์จูน 1-3 โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน มีภารกิจในการพัฒนาฝีมือแรงงานที่อยู่ในตลาดแรงงานให้มีทักษะฝีมือสูงขึ้น ประกอบกับกระทรวงแรงงานได้ประกาศกำหนด ให้สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ เป็นสาขาอาชีพที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ โดยสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคารเป็นสาขาแรก ต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ (License) ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และจะส่งเสริมการรับรองความรู้ความสามารถเพิ่มเติม อีก 4 สาขา ได้แก่ ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างเชื่อมทิก ช่างเชื่อมแม็ก และช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก

รมช. แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท มาเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด สนับสนุนเครื่องปรับอากาศ ให้แก่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรช่างเครื่องปรับอากาศ ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือสูงขึ้นได้มาตรฐานฝีมือแรงงาน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ รองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่ง กพร.จะส่งมอบเครื่องปรับอากาศที่ได้รับ ให้แก่หน่วยงานของกพร.ในแต่ละจังหวัดนำไปใช้ฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือต่อไป

"การพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงานไทย ต้องได้รับการสนับสนุนและร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งตัวของแรงงานเองที่ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะฝีมืออย่างต่อเนื่อง ให้ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เรียนรู้ตลอดเวลา ในส่วนของภาครัฐ ต้องบริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด ดังนั้น การสนับสนุนของภาคเอกชน จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนากำลังแรงงาน เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศต่อไป ความร่วมมือในวันนี้จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมและการทำงานแบบประชารัฐ เพื่อยกระดับฝีมือให้แรงงานไทย ให้มีงานทำมีฝีมือที่ได้มาตรฐาน และพัฒนาตนเองไปสู่มาตรฐานที่สูงขึ้น เพิ่มโอกาสรับค่าจ้างที่สูงขึ้นตามอัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือต่อไป" รมช. แรงงาน กล่าวท้ายสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ