ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานการปฏิบัติภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีข้อสั่งการเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 ให้ส่วนราชการทุกหน่วยงานในสังกัด ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้พิจารณาบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงติดตามสถานการณ์จากความก้าวหน้าผลการสอบสวนผู้ป่วย และตรวจสอบ timeline ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 หากมีความเกี่ยวข้องกับข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัด ขอให้พิจารณาดำเนินการตามมาตรการกักตัวจนครบ 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงไปในพื้นที่ และให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัด ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และงดเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปราชการในพื้นที่เสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมาตรการตามข้อกำหนดของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหน่วยงานควบคุมโรคในพื้นที่อย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังให้หน่วยงานวางแผนล่วงหน้าในการปฏิบัติงาน สำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัด กรณีให้ปฏิบัติราชการที่บ้าน (Work from Home) หากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสัตว์น้ำนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีรายงานการตรวจพบโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรนา 2019 ในผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่เคยมีรายงานการเกิดโรคจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกันนี้ อาทิ SAR CoV2 และ MERS ในสัตว์น้ำที่เป็นสัตว์เลือดเย็นมาก่อน จึงขอให้ผู้บริโภคโปรดมั่นใจในการบริโภคสัตว์น้ำ และกรมประมงยังมีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมและตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำก่อนถึงมือผู้บริโภคเพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุด สำหรับสัตว์น้ำที่มาจากการเพาะเลี้ยงจะต้องได้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี หรือ GAP ส่วนที่มาจากการทำประมงต้องผ่านการประเมินสุขอนามัยบนเรือประมง อีกทั้งยังมีการสุ่มตรวจสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่วางจำหน่ายในท้องตลาดโดยใช้ชุดทดสอบเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกรมปศุสัตว์ยังได้มีการปรับแผนในการเข้าไปตรวจสอบมาตรฐานของโรงงานแปรรูปอาหารเพื่อส่งออก และฟารม์ต่าง ๆ ในพื้นที่ รวมถึงมีการตั้งด่านสุ่มตรวจตามจุดต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา และสำหรับองค์การสะพานปลาได้มีการประกาศปิดการใช้ท่าเรือสมุทรสาคร และท่าเรือสมุทรสงคราม รวมถึงได้คุมเข้ม 18 ท่าเรือทั่วประเทศ มาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 มีการทำความสะอาดท่าเรือและพ่นยาฆ่าเชื้อ และยังได้มีมาตรการเยี่ยวยาผู้ประกอบการสำหรับเรือที่ออกจากท่าก่อนวันที่ 20 ธันวาคม 2563 สามารถนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือสมุทรสาคร และท่าเรือสมุทรสงครามได้ แต่ต้องมีการแจ้งก่อนล่วงหน้า โดยทางองค์การสะพานปลาจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปรอตรวจสอบอย่างละเอียด นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเปิดตลาดสำรองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบนำสินค้ามาขาย เพื่อเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงกำชับในทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าไปรับฟังปัญหาและคอยช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด