บมจ. เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านการให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนในประเทศไทย พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 24 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 48,720 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า "KEX"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนในประเทศไทย เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "KEX" ในวันที่ 24 ธันวาคม 2563
KEX ดำเนินธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนในประเทศไทยแบบครบวงจรและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกประเภทผ่านเครือข่ายทั่วประเทศของบริษัท โดยมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าในทุกรูปแบบ ได้แก่ การจัดส่งพัสดุแบบบุคคล-ส่งถึง-บุคคล (C2C) การจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจ-ส่งถึง-บุคคล (B2C) และการจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจ-ส่งถึง-ธุรกิจ (B2B) โดยในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีการจัดส่งพัสดุเป็นจำนวนเฉลี่ยทั้งสิ้นกว่า 1,200,000 ชิ้นต่อวันทำการ และยังเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุที่มีการให้บริการเก็บเงินปลายทางรายแรกและรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
KEX มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 870 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 300 ล้านหุ้น ต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 8 - 18 ธันวาคม 2563 ในราคาหุ้นละ 28 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 8,400 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 48,720 ล้านบาท มี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ 2 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้น KEX จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการขยายธุรกิจ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน บริษัทมีแผนในการพัฒนาและลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกันในทุกภาคส่วน รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประกอบการด้านการจัดส่งพัสดุที่ดีที่สุดในประเทศไทย มุ่งบริการที่มีคุณภาพ ยกระดับคุณภาพของสังคมส่วนรวม รวมถึงการให้ความใส่ใจพนักงาน และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียและผู้ลงทุนของบริษัทฯ
KEX มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นรวม 52.1% และบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นรวม 19.0% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลัง
หักเงินสำรองต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดในแต่ละปี โดยจำนวนเงินปันผลที่จ่ายจะต้องไม่เกินกว่ากำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะกิจการ
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.kerryexpress.com/th และที่ www.set.or.th