บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่งในธุรกิจบริหารหนี้ หลังอวดผลงานทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยใช้เวลาเพียงกว่า 2 ปีกว่า ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ล่าสุดประกาศ ย้ายเข้าซื้อขายบนกระดาน SET ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจการเงิน โดยเริ่มทำการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.63 นี้ เป็นต้นไป เพิ่มความมั่นใจให้คู่ค้า รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มศักยภาพ
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการขายของ Online ผ่าน Call Centre เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวด ธุรกิจการเงิน เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (25 ธันวามคม 2563) จากเดิมที่บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 และสามารถขยายการเติบโตโดยใช้เครื่องมือในตลาดทุน สนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง จนวันนี้ CHAYO เป็นหนึ่งในหุ้นบริหารสินทรัพย์ที่โดดเด่น (AMC) พร้อมที่จะสยายปีกโต รับโอกาสจากการลงทุนสถาบันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน
"สาเหตุที่บริษัทฯ ย้ายเข้าจดทะเบียนใน SET จากเดิมอยู่ใน mai นั้น เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมและมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้ง ผลประกอบการที่โดดเด่น ทุนจดทะเบียน มูลค่าการซื้อขาย และประกอบกับ การย้ายเข้าไปใน SET เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กองทุนหรือนักลงทุนสถาบันสามารถเข้ามาลงทุนในหุ้น CHAYO ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายกองทุนที่สนใจหุ้นของเรา คาดว่าจะช่วยเสริมศักยภาพให้ CHAYO แข็งแกร่ง รวมถึงเติมเต็มความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าและพันธมิตร" นายสุขสันต์ กล่าว
นายสุขสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา ( ปี 2561- ไตรมาส 3/2563) ผลการดำเนินงานของ CHAYO เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ โดยในปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 255.65 ล้านบาท เพิ่มเป็น 295.02 ล้านบาทในปี 2562 และเพิ่มเป็น 352.47 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2563 ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 85.46 ล้านบาท เพิ่มเป็น 111.43 ล้านบาทในปี 2562 และ 119 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2563
จึงมั่นใจว่า ในปีนี้หรือปี 2563 จะเป็นอีกปีที่ CHAYO เติบโตทำสถิติรายได้สูงสุดใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ
ส่วนการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพในปีนี้จนถึงเมื่อวานนี้หรือวันที่ 24 ธันวาคม 2563 บริษัทสามารถซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มได้จำนวนกว่า 15,500 ล้านบาทส่งผลให้ ณ สิ้นปี บริษัทน่าจะมีหนี้ด้อยคุณภาพที่ซื้อมาเพื่อบริหารไม่น้อยกว่า 63,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพที่ซื้อมาบริหารอยู่ประมาณ 53,514 ล้านบาท (แบ่งออกเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 37,950 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกัน 15,564 ล้านบาท) และในไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1/10/2563 - 24/12/2563 บริษัทซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารเพิ่มเติมอีกจำนวนประมาณ 12,569 ล้านบาท)
ทั้งนี้ หลังจากย้ายเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บริษัทฯ มีแผนการลงทุนในปี 64 โดยวางงบลงทุนไว้ประมาณ 1,200 ล้านบาท เพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ หรือ NPLs จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่มซึ่งคาดว่าจะได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าในปีหน้าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของบริษัทที่จะยังคงมีหนี้เสียออกมาให้บริษัทฯ ประมูลได้อีกพอสมควร ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีต่อ CHAYO ในการเติบโตได้อย่างยั่งยืนและส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นในระยะยาว