สทนช. - กอ.รมน.ภาค 1 ประสานความร่วมมือ บูรณาการข้อมูล แผนงาน และงบประมาณ เดินหน้าขับเคลื่อนแผนงานด้านการบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างเต็มศักยภาพ หวังแก้ปัญหาด้านน้ำระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้การต้อนรับ พลโท เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1 พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1 (กอ.รนม.ภาค 1) โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สทนช. ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมน้ำปิง ชั้น 4 อาคารจุฑามาศ สทนช. ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ และเยี่ยมชมการทำงานของกองอำนวยการน้ำชาติ (กอนช.) เพื่อติดตามการวิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์น้ำ ณ ห้องปฏิบัติงาน กอนช. ด้วย
พลโท เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1 กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นหน่วยงานของกองทัพที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของรัฐและความสงบสุขของประชาชน ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีภารกิจที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านน้ำ และได้มีโอกาสประสานความร่วมมือกับ สทนช. โดย สทนช. เป็นหน่วยงานหลักของประเทศที่มีฐานข้อมูลที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือสูง และมีทรัพยากรบุคลากรที่มีความรู้ด้านบริหารจัดการน้ำ ส่วนทหารก็มีกำลังพลและยุทโธปกรณ์กระจายอยู่ในทุกจังหวัดทุกพื้นที่ สามารถเข้าถึงจุดที่เกิดปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ความร่วมมือที่ผ่านมาจึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำงานร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาด้านน้ำให้กับพี่น้องประชาชนได้ลงลึกในระดับพื้นที่ ทำให้แผนงานในหลาย ๆ โครงการประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ทหารพร้อมเป็นกองหนุนให้กับ สทนช. ในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำของประเทศเป็นไปด้วยความยั่งยืน ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้าน ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า ในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายได้ร่วมกันบูรณาการความร่วมมือ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทัพ ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจการดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านน้ำในทุกรูปแบบภายใต้การดำเนินงานของ "กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)" ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน โดยในส่วนของกองทัพก็ได้ส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลและแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนช่วยให้ผ่านวิกฤตภัยแล้งช่วงเวลานั้นไปได้ด้วยดี สำหรับความร่วมมือที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและต่อยอดต่อไปในอนาคตนั้น สทนช. ได้ประสานความร่วมมือกับกองทัพภาคที่ 1 - 4 ในการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เข้าถึงข้อมูลของแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ถูกต้อง สะท้อนความต้องการด้านน้ำของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะนำไปสู่แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำระดับจังหวัดและระดับลุ่มน้ำตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ต่อไป
"แม้ว่า สทนช. จะเป็นหน่วยงานน้องใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นสู่ปีที่ 4 แต่ด้วยการทำงานในเชิงรุกที่บูรณาการร่วมกับโครงข่ายของทุกหน่วยงานอย่างเข้มข้น อีกทั้ง หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ให้ความสำคัญกับการทำงานในจุดนี้ด้วย โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและเพื่อประเทศชาติ ทำให้การแก้ไขปัญหาด้านน้ำของประเทศประสบความสำเร็จและเป็นระบบมากขึ้น ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม" เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย