รองนายกฯ ดอน กำชับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday January 26, 2021 09:55 —ThaiPR.net

รองนายกฯ ดอน กำชับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2563 - 2565 หลังจากแผนฯ ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยที่ประชุมรับทราบว่ามีการจัดเตรียมงบประมาณบูรณาการรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2565 ไว้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ ด้วยแล้ว

ที่ประชุมยังมีมติให้ทุกหน่วยงานเร่งพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล (Digital Literacy) ระดับพื้นฐานอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ สพร. จัดเตรียมเป็นหลักสูตร e-Learning เพื่อให้สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งจะเป็นการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลของบุคลากรภาครัฐให้มีความพร้อมในการร่วมขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่บุคลากรภาครัฐที่ยังขาดทักษะดิจิทัลที่จำเป็นในการทำงานเป็นลำดับแรกก่อน ทั้งนี้ รองนายกฯ ดอนยังเน้นความสำคัญของการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของประชาชนทั่วไป เพื่อให้สามารถเข้าถึงและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านระบบดิจิทัลของภาครัฐด้วย

ที่ประชุมยังย้ำความสำคัญของการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เร่งให้ภาครัฐต้องปรับตัวสู่รัฐบาลดิจิทัลเร็วขึ้น ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานภาครัฐสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ (Government Data Exchange Center: GDX) โดยสำนักงาน ก.พ.ร. และ สพร. พร้อมช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัด

รองนายกฯ ดอนเน้นความสำคัญของการดำเนินตามแผนงานต่างๆ เพื่อผลักดันรัฐบาลดิจิทัล บนหลักของความโปร่งใส ประสิทธิภาพ ธรรมาภิบาลและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ต้องมีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งพยายามเชื่อมโยงการดำเนินงานเพื่อพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกับวาระเพื่อการพัฒนาประเทศที่สำคัญอื่นๆ ของรัฐบาล อาทิ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในยุคหลังโควิด-19

ที่ประชุมได้รับทราบสถานะการดำเนินงานโครงการจัดทำเอกสารสำคัญทางการศึกษาในรูปแบบดิจิทัล (Digital Transcript) โดยมีมหาวิทยาลัยนำร่อง 9 แห่งที่พร้อมให้บริการ Digital Transcript แก่นิสิตนักศึกษาในปีการศึกษา 2563 ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายฝ่ายเลขานุการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายผลให้หน่วยงานของรัฐรับรู้ในเรื่องการนำ Digital Transcript ไปใช้ในหน่วยงานและให้ถือเสมือนเอกสารต้นฉบับหรือฉบับจริง เพราะเล็งเห็นประโยชน์ที่ทุกฝ่ายจะได้รับนอกจากอำนวยความสะดวกแก่นิสิต/นักศึกษา และประชาชน ช่วยป้องกันการปลอมแปลงวุฒิการศึกษา และลดภาระของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารสำคัญทางการศึกษาแล้ว ยังเป็นการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลครั้งสำคัญของประเทศอีกด้วย

ดร. สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล โดยได้ดำเนินโครงการในหลายด้าน เช่น การพัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดิจิทัลจากสถาบัน TDGA โดยในปี 2564 ตั้งเป้าหมายพัฒนาบุคลากรภาครัฐ จำนวน 2 แสนคน และพัฒนาบุคลากรสายเทคโนโลยีสารสนเทศในเรื่องธรรมาภิบาลข้อมูล การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับด้านมาตรฐาน หลักเกณฑ์ ตาม พ.ร.บ. การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 สพร. ได้มีการดำเนินการคืบหน้าหลายเรื่อง เช่น การจัดทำกรอบธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ การเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐผ่านเว็บไซต์ data.go.th การจัดทำดิจิทัลไอดีสำหรับบริการภาครัฐ และการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัล อาทิ บัญชีข้อมูลและคำอธิบายชุดข้อมูลดิจิทัล Data Catalog / Metadata จัดทำ (ร่าง) แผนแม่บทพอร์ทัลกลาง เพื่อประชาชน ระยะ 3 ปี (Citizen Portal Roadmap) นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานหลายฝ่าย เช่น การเปิดศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ภาครัฐ (AI) เพื่อให้เป็นแหล่งรวมผลงาน AI พร้อมใช้ เพื่อสร้างชุมชน AI ร่วมผลักดันหน่วยงานรัฐสร้างบริการเพื่อประชาชน การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลภาครัฐ (DGTi) เป็นต้น โดยมุ่งดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ "รัฐบาลดิจิทัล เปิดเผย เชื่อมโยง และร่วมกันสร้างบริการที่มีคุณค่าให้ประชาชน" เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ สังคมอยู่ได้ ในสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกันในยุค New Normal นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ