ผู้ถือหุ้นกู้ PPPM แสดงความเชื่อมั่นไฟเขียว ขยายระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้ PPPM213A และTLUXE205A ออกไปอีก 2 ปี หลังฟังแผนแนวทางชำระหนี้ของบริษัทฯ จะอาศัยการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กระทบต่อธุรกิจและแผนการขายสินทรัพย์ ทำให้จำเป็นต้องขอเลื่อนระยะเวลาการชำระคืน พร้อมกับเพิ่มอัตราจ่ายดอกเบี้ย
ม.ล. พรรณเพียงเดือน สังคหะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทฯ จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ PPPM213A มูลค่าหุ้นกู้ 207.60 ล้านบาท และ TLUXE205A มูลค่าหุ้นกู้ 170 ล้านบาท เพื่อขอขยายระยะเวลาการไถ่ถอนหุ้นกู้
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ มีมติตามที่บริษัทฯ เสนอ โดยขอให้ขยายระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้ ออกไปอีก 2 ปี เป็นผลให้หุ้นกู้รุ่น PPPM213A ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมีนาคม 2566 จากเดิมครบกำหนดไถ่ถอน เดือนมีนาคม 2564 และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจ่ายเป็น 8.59% จากเดิม 8.50% และหุ้นกู้รุ่น TLUXE205A ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม 2566 จากเดิมครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม 2564 และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจ่ายเป็น 7.06 % จากเดิม 7%
พร้อมกับปรับจำนวนการจ่ายดอกเบี้ยเป็นปีละ 2 ครั้ง จากเดิมปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้ผู้ออกหุ้นกู้บริหารสภาพคล่องทางการเงินให้สอดคล้องกับสภาพการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ได้มีมติอนุมัติให้ยกเลิกการดำรงเงื่อนไขอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E)
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 1,284 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้จากสถาบันการเงิน 651 ล้านบาท หนี้หุ้นกู้ 633 ล้านบาท สำหรับแนวทางในการชำระหนี้จะมาจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือจะมาจากกระแสเงินสดโดยหลักมาจากการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ซึ่งแต่ละปี จะมีกำไรก่อนภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ราว 100 - 200 ล้านบาท
"บริษัทฯ ยืนยันว่ายังมีศักยภาพในการชำระคืนหนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงโอกาสและราคาในการจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจลดลงด้วย ดังนั้นบริษัทฯ เล็งเห็นว่าหากขยายระยะเวลาการไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไป จะส่งผลดีต่อผู้ถือหน่วยหุ้นกู้และบริษัทฯ ในการเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้"