บมจ. โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้พัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพที่มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริงภายใต้แบรนด์ Rojukiss, PhDerma, Best Korea, Wonder Herb และ Sis2Sis ชูเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่อง ภายในปี 2567 ด้วยโมเดลธุรกิจแบบ Asset Light และศักยภาพของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตรงในธุรกิจ FMCG และผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าใหม่ พร้อมนวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมือง มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจำหน่ายทั้ง Offline และ บุกช่องทาง D2C ร่วมกับ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ พร้อมเร่งเครื่องขยายตลาดใน ASEAN และลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในด้านความงามและสุขภาพ เชื่อมโยงการขายสินค้า Ecommerce เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคอย่างกว้างขวางและใกล้ชิด เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้าน Big Data และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมความงามและสุขภาพของเอเชีย ล่าสุดประกาศเปิดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 8.50 - 9.00 บาทต่อหุ้น ก่อนเปิดจองซื้อวันที่ 5 และ 8-9 ก.พ. 64
บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ 4 ราย เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม ประกอบด้วยบริษัท หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ของ บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KISS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 8.50 - 9.00 บาทต่อหุ้น พร้อมจัดโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนรายย่อยที่สนใจผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook page: Rojukiss และ MT Multimedia ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.00-14.15 น. และจะเปิดให้นักลงทุนได้จองซื้อที่ราคา 9.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น พร้อมทำการสำรวจความต้องการซื้อหุ้น IPO ของนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) ในระหว่างวันที่ 5 และ 8-9 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ อย่างไรตามหากราคาเสนอขายสุดท้าย ต่ำกว่าราคาจองซื้อ จะดำเนินการคืนเงินจองซื้อแก่นักลงทุนรายย่อยต่อไป และคาดว่าจะนำหุ้น KISS เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 309 ล้านบาท แบ่งเป็น 618 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท มีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 270 ล้านบาท โดยจะเสนอขาย IPO จำนวนไม่เกิน 152,641,600 หุ้น หรือ คิดเป็นไม่เกิน 25.4% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ แบ่งเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนไม่เกิน 92,641,600 หุ้น เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าและช่องทางการขายตรงแก่ผู้บริโภค ขยายธุรกิจในต่างประเทศ ลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล และชำระเงินกู้ยืมระยะสั้น
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS กล่าวว่า บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ 'ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพของเอเชีย' หรือ True Health and Beauty Company พร้อมตั้งเป้าหมายสร้างรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 ต่อปี นับจากปี 2562 ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.) ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มความงามและสุขภาพอย่างครบวงจร (Health & Beauty) บริษัทฯ มีแผนต่อยอดความแข็งแกร่ง 5 แบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ โดยจะเพิ่มความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ (Multi-category Brand Portfolio) อย่างครบวงจร รวมถึงออกแบรนด์สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม ภายใต้บรรจุภัณฑ์หลายรูปแบบ (Multi-format packaging) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำในระดับโลก
2.) เป็นผู้นำสร้างนวัตกรรมความงามและสุขภาพที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมือง (Convenience Health & Beauty) โดยบริษัทฯ จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด มีความสะดวกและความคุ้มค่า ภายใต้ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างความคุ้มค่าและความสะดวกสบายในการใช้งานในทุกมิติ ทั้งขนาดและราคาที่เหมาะสม รองรับการเติบโตของประชากรที่มีวิถีการดำเนินชีวิตแบบคนเมือง (Urbanization) ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
3.) เสริมสร้างความแข็งแกร่งช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย บริษัทฯ เดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุม ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และขยายช่องทางแบบ Direct-to-Consumer (D2C) เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ทั้งด้านการสื่อสาร นำเสนอนวัตกรรมใหม่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ล่าสุดจับมือร่วมกับ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ขยายช่องทาง Media Commerce โดยร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ และช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านทางแพลทฟอร์มสื่อต่างๆ ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
4.) มุ่งสู่ความเป็นผู้นำในประเทศไทยและขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การดำเนินธุรกิจเพื่อความงาม และการมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มุ่งขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มการขยายจำนวนประชากรสูง ซึ่งเมื่อรวมกับประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนประชากรสูงถึง 571 ล้านคนในปี 2567 จึงมีความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ ส่งผลให้ตลาดเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 10% จากเมื่อปี 2562 หรือคิดเป็นมูลค่า 13.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
"การระดมทุนครั้งนี้ ทำให้ KISS เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ที่เข้าถึงง่ายและตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมือง ครอบคลุมกลุ่มความงามและสุขภาพ (Health & Beauty) รวมถึงมุ่งขยายช่องทางการขายใหม่ๆ พัฒนาเทคโนโลยีด้านความงาม เพื่อสร้างฐานข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาค ASEAN เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ" นางวรวรรณ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมือง ทั้งด้านคุณภาพ ราคา ขนาด และบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกคุ้มค่า โดยมีความแข็งแกร่งของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพกว่า 200 รายการ และโดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2560 - ไตรมาส 3 ปี 2563 บริษัทฯ ได้พัฒนาสินค้าใหม่กว่า 97 ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ Rojukiss มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว คิดเป็นร้อยละ 92 ในระหว่างปี 2560-2562 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 25
นอกจากนี้ แบรนด์ Sis2Sis ที่มีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบซองพร้อมก้านแปรงในตัว ทำยอดขายผลิตภัณฑ์ลิปสติกอันดับ 1 (ในเชิงปริมาณ) และที่ปัดขนตา (Mascara) มียอดขายเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย (ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ) ในปี 2562 ตามข้อมูลของ The Nielsen Company ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวข้างต้น มาจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ร้านค้าทั่วไป และช่องทาง Direct-to-Consumer (D2C) ผ่านแพลทฟอร์ม Marketplace และ E-Commerce ได้แก่ www.rojukissth.com และ Line@Rojukiss ตลอดจนวางจำหน่ายในต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา รวมถึงเตรียมขยายสู่ตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมในอนาคต
"จุดแข็งของเรา มีกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่างและโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบบริหารจัดการเทียบเท่าบริษัทชั้นนำระดับโลก แต่มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นสูง ภายใต้ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ รวมถึงการเป็นบริษัท Asset Light ที่พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เอื้อต่อการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ อีกทั้งยังมีความได้เปรียบในเชิงประสิทธิภาพของนวัตกรรมและต้นทุนจากการมีเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ทำให้เราก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ และนำธุรกิจก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมความงามและสุขภาพของเอเชีย" นางวรวรรณ กล่าว
นางสาววิภาภรณ์ เนียมละออง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS กล่าวว่า บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและมีผลการดำเนินงานทั้งในด้านยอดขายและกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานในปี 2560 - 2562 บริษัทฯ มีอัตราเติบโตของยอดขายเฉลี่ยร้อยละ 37.9 ต่อปี และกำไรสุทธิขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 81.8 ต่อปี โดยปี 2562 มียอดขายรวม 1,140.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 190.1 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-กันยายน) ทำยอดขายได้ 730.6 ล้านบาท จากการขยายพอร์ตสินค้าเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความงามและสุขภาพ และการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวม 17 รายการ และมีกำไรสุทธิ 139.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แบรนด์ Rojukiss มีส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาส 3/2563 เพิ่มขึ้นจาก 8.8% เป็น 12.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนในช่องทางร้านสะดวกซื้อ ตามข้อมูลของ The Nielsen Company