ก่อนที่จะถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Mi 11 สมาร์ทโฟน 5G ระดับเรือธงล่าสุดของเสียวหมี่ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เรามาทำความรู้จักกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกที่เป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่คนทั่วโลกเข้าถึงได้อย่างแท้จริงกันสักนิด
เสียวหมี่ก่อตั้งโดย เหลย จุน (Lei Jun) ในปี 2010 โดยริเริ่มจากการพัฒนาระบบปฏิบัติการ MIUI แต่ผู้บริโภคบางกลุ่มที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีกลับไม่มีโอกาสที่จะได้ลองใช้ เนื่องจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในสมัยนั้นมีราคาสูง เสียวหมี่จึงได้ถือกำเนิดสมาร์ทโฟนของตัวเองนั่นคือ "Mi 1" โดยมีจุดมุ่งหมายอยากให้ผู้บริโภคสามารถได้มีโอกาสเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
จุดเริ่มต้นเล็กๆ อันแสนยิ่งใหญ่
Mi 1 สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของเสียวหมี่ ปรากฏสู่สายตาชาวโลกเมื่อเดือนสิงหาคม 2011 และถือเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยีจากชิปเซ็ต 1.5GHz สมาร์ทโฟน Mi 1 ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายด้วยการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นทุกๆ ปี เสียวหมี่ได้เปิดตัว Mi Series สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของแบรนด์ ในทุกครั้งที่เปิดตัวสมาร์ทโฟน เสียวหมี่มาพร้อมพัฒนาการของเทคโนโลยีและนวัตกรรมจัดเต็มที่มากขึ้นเรื่อยๆ เสมอ จึงไม่แปลกที่สมาร์ทโฟนเสียวหมี่ขึ้นชื่อในเรื่องสเปคอันทรงพลังและเทคโนโลยีก้าวกระโดดในหมู่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี อาทิ Mi 2 เป็นสมาร์ทโฟนแรกในโลกที่ใช้ขุมพลัง Qualcomm quad-core APQ8064 และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวในเวลานั้นที่มีหน่วยความจำสูงถึง RAM 2GB และ ROM 16GB หรือ Mi 5 ที่เปิดตัวในปี 2016 สมาร์ทโฟนตัวแรกที่มาพร้อมระบบกันสั่น หรือ Mi 9 ที่เปิดตัวในปี 2019 ที่ได้รับการจัดลำดับจาก DXOMARK ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในด้านการถ่ายวิดีโอ หรือล่าสุดกับ Mi 10 Pro ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนที่มีระบบเสียงยอดเยี่ยมที่สุดจาก DXOMARK
ปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่สะท้อนผ่านสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น
สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมจัดเต็มในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพสูงโดยที่ไม่ต้องจ่ายในราคาแพง เสียวหมี่จึงไม่ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายแสวงหากำไรเกินควรจากธุรกิจฮาร์ดแวร์ แต่เสียวหมี่มุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อการผลิตสินค้าที่ดีให้คุ้มค่าที่ผู้ใช้ได้จ่ายไป ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเสียวหมี่จึงสะท้อนอย่างเด่นชัดในสมาร์ทโฟนทุกๆ รุ่น อันเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีคุณภาพสูง แต่มาพร้อมราคาที่ให้ทุกคนเป็นเจ้าของได้ง่าย
ก้าวต่อไปของเสียวหมี่ในฐานะผู้นำสมาร์ทโฟนชั้นนำ เตรียมส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สู่สายตาชาวโลก
ในฐานะการเป็นผู้สร้างสรรค์และเนรมิตนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมราคาที่จับต้องได้ให้กับผู้บริโภค ตลอดระยะเวลา 11 ปีในสมรภูมิเทคโนโลยี เสียวหมี่ได้ผลิตสมาร์ทโฟนและคิดค้นผลิตภัณฑ์มากมายที่กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคยุคใหม่และเป็นที่กล่าวขานในวงการ และในปี 2021 นี้ เสียวหมี่เตรียมพร้อมเปิดตัว Mi 11 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 888 ที่สาวกต้องร้องว๊าวให้กับกล้องหลังจัดเต็ม 3 ตัว ความละเอียดสูงถึง 108MP แถมงานนี้คนรักการถ่ายวิดีโอต้องห้ามพลาด เพราะสมาร์ทโฟน Mi 11 เกิดมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ
นวัตกรรมจัดเต็มเพื่อผู้บริโภคในสมาร์ทโฟน Mi 11 ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เตรียมพร้อมต้อนรับ Mi 11 พร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ได้เลย!!!
รับชมพร้อมกันทั่วโลก วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 19.00 น.
YT : http://bit.ly/Mi11LaunchThailandYT
FB : http://bit.ly/Mi11LaunchThailandFB
เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและ สมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก
เสียวหมี่ให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมไปถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เสียวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในราคาที่เป็นจริงเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม
ปัจจุบัน เสียวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 3 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม AIoT (AI+IoT) สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 289.5 ล้านผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่ วางจำหน่ายมากกว่า 90 ตลาดทั่วโลก ในเดือนสิงหาคม 2020 เสียวหมี่ ได้รับการจัดอันดับใน "Fortune Global 500" โดยอยู่ในอันดับที่ 422 ไต่ขึ้นมา 46 อันดับจากปีที่แล้ว และบริษัทยังอยู่ในอันดับ 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://blog.mi.com/en/