บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ โออาร์ (OR) ผู้นำธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 11 ก.พ. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 208,980 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "OR"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "OR" ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564
โออาร์ เป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ของกลุ่มปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้ง เป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในประเทศ โดยออกแบบและบริหารจัดการธุรกิจอย่างผสมผสาน เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค พร้อมสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืน ผ่านสถานีบริการน้ำมัน PTT Station กว่า 1,900 แห่ง ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563) ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 38.9% เมื่อพิจารณาจากปริมาณการขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดย Wood Mackenzie) นอกจากนี้ โออาร์ ยังดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ Cafe Amazon ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 3,100 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563) และยังเป็นแบรนด์ร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 6 ของโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดย Euromonitor) รวมถึงได้รับสิทธิอนุญาตแต่ผู้เดียวในประเทศไทยในการดำเนินธุรกิจร้านค้าภายใต้แบรนด์ "เท็กซัส ชิคเก้น" (Texas Chicken) และได้รับสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ของธุรกิจอาหารแบรนด์ "ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ" (Hua Seng Hong Dim Sum) รวมทั้งยังมีพันธมิตรธุรกิจทั้งแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ไทยชั้นนำอีกมากมาย
ในวันแรกของการเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โออาร์ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 116,100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 2,610 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 18 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 46,980 ล้านบาท (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 208,980 ล้านบาท โดยมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 5 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์ เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยสนับสนุนให้ โออาร์ สามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำและดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งใจไว้ คือ เป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกที่สร้างคุณค่าให้กับชุมชนผ่านการดำเนินธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดย โออาร์ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน ขยายธุรกิจสำหรับการตลาดพาณิชย์ ลงทุนในคลังเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและศูนย์กระจายสินค้า ขยายเครือข่ายร้านค้าปลีก และลงทุนในธุรกิจต่างประเทศ รวมถึงลงทุนในธุรกิจใหม่ (New S-Curve) เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะต่อยอดความสำเร็จ และความชำนาญสู่ระดับภูมิภาค และระดับโลก
ทั้งนี้ โออาร์ จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. โดยภายหลังจากการจัดหาหุ้นและดำเนินการส่งมอบหุ้นคืนแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ ปตท. จะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 75% ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 30.0% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามที่กฎหมายและ โออาร์ กำหนดไว้ โดยต้องไม่เกินกว่ากำไรสะสมของ โออาร์
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.pttor.com และ www.set.or.th