กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น หรือ The Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries of Japan (MAFF) จัดงานสาธิตการทำอาหารญี่ปุ่น-ไทย ในรูปแบบออนไลน์ โดยมีเชฟชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นและไทยมารังสรรค์เมนูอาหาร โดยใช้วัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่นครีเอทเป็นอาหารไทยได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยงานนี้ มีผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบออนไลน์จำนวนมาก อาทิ สื่อมวลชนด้านอาหาร เชฟ ร้านค้าปลีก เจ้าของร้านอาหาร ผู้จัดจำหน่าย รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น (MAFF) มีพันธกิจหลักในการเผยแพร่อาหารและวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึงการส่งเสริมการส่งออกสินค้าญี่ปุ่นไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ฉะนั้น จึงได้จัดงานนี้ขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์วัตถุดิบในการทำอาหารญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ป "World great Ingredients" ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ซึ่งเชฟชั้นนำในแต่ละประเทศจะสร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษ เพื่อแนะนำวัตถุดิบของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในประเทศนั้นๆ ได้แก่ ประเทศไทยจะใช้ "มิโซะ", สหรัฐอเมริการจะใช้ "หอยเชลล์" และ ฝรั่งเศสจะใช้ "สาหร่าย"
โอกาสนี้ เชฟทาคุจิ ทาคาฮาชิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรังสรรค์อาหารรุ่นที่สามจากร้านอาหาร " คิโนบุ" ที่ได้รับมิชลิน 1 ดาวในเกียวโต และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีในด้านการเผยแพร่อาหารญี่ปุ่นจาก MAFF ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ในรูปแบบออนไลน์ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยเชฟทาคาฮาชิได้พูดถึงวัฒนธรรม ประเพณีและองค์ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบของญี่ปุ่น รวมทั้งยังได้แชร์เคล็ดลับการทำอาหารญี่ปุ่น รวมถึงเรื่องราวความน่าสนใจของวัตถุดิบอื่นๆ ด้วย
ในงานนี้ เชฟทาคาฮาชิ ได้สาธิตการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม โดยใช้มิโซะมาสร้างสรรค์เป็นเมนู 'ชาบูเนื้อเย็นราดซอสมิโซะแดง และปลาบุรีราดซอสยูซุมิโซ' เชฟทาคาฮาชิ กล่าวว่า "มิโซะเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารญี่ปุ่น เพราะมีรากฐานมาจากถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองมาช้านาน และที่น่าสนใจ คือ มิโซะมีหลายชนิดและรสชาติก็แตกต่างกันไปทั่วประเทศ โดยตนเองไม่เพียงนำมิโซะมาใช้ร่วมกับเนื้อสัตว์และปลาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงซุปหม้อไฟและเครื่องปรุงรสต่างๆ ด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาใช้ทำอาหารที่ให้รสชาติที่ลึกซึ้ง ถึงแม้มิโซะจะเป็นเครื่องปรุงรสแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น แต่ตนเองคิดว่ามันเข้ากันได้กับทุกชนิดประเภทอาหาร แต่อาจจะต้องขึ้นอยู่กับการจัดเตรียมในแต่ละเมนูด้วย "
สำหรับประเทศไทย ได้มี เชฟจารึก ศรีอรุณ หนึ่งในเชฟฝีมือดีที่มีประสบการณ์ยาวนานเกี่ยวกับอาหารไทยและอาหารนานาชาติกว่า 20 ปี เป็นที่รู้จักในวงการอุตสาหกรรมอาหารมายาวนาน มารังสรรค์ 2 เมนูสุดพิเศษในครั้งนี้ โดยเชฟจารึกได้สร้างสรรค์อาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น โดยใช้มิโซะเป็นส่วนผสมหลักและเสริมทัพรสชาติด้วยส่วนผสมอื่นๆ ของญี่ปุ่น เช่น เนื้อวากิวและแอปเปิ้ลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่คนไทยรู้จักกันดีและหาซื้อได้ง่ายในประเทศไทย
เมนูแรกของเชฟจารึก คือ "แกงแดงเนื้อวากิวมิโซะ" มีส่วนผสมหลัก คือ "มิโซะแดง" เนื่องจากมิโซะมีถั่วหมัก และแกงแดงของไทยก็มีส่วนผสมของถั่วเช่นกัน ดังนั้นเชฟจึงครีเอทอาหารจานนี้ให้สามารถใช้แทนกันได้ เพราะมีส่วนผสมที่คล้ายคลึงกัน เนื้อวัวที่ใช้ในเมนูนี้ คือ "เนื้อวากิว" ซึ่งจะทำให้เนื้อวัวและพริกแกงเข้ากันได้ดีและทำให้อาหารจานนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
สำหรับเมนูที่สอง คือ "ปลากะพงทอดราดน้ำยำแอปเปิ้ล" เชฟเลือกใช้วัตถุดิบ "มิโซะขาว" คู่กับ "ปลากะพงแดง" ซึ่งในญี่ปุ่นจะเสริฟทั้งสองชนิดนี้คู่กัน รสชาติของอาหารจานนี้ ตัวซอสมิโซะจะทำเป็นเหมือนซอสน้ำปลา มีรสชาติเค็มๆ หวานๆ และจะนำแอปเปิ้ลมาทำเป็นสลัดแอปเปิ้ล ซึ่งนำมาทดแทนยำมะม่วงเหมือนกับอาหารไทยเช่นกัน เมื่อชิมแล้วจะรู้ได้เลยว่าเป็นอาหารไทยอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าอาหารไทยทั้งสองเมนูจะมีส่วนผสมหลักมาจากวัตถุดิบของญี่ปุ่น แต่สามารถผสมผสานกันอย่างลงตัวจนได้รสชาติที่กลมกล่อมแบบไทยแท้ เชฟจารึก กล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกของตนเองในการรังสรรค์อาหารไทยที่ใช้มิโซะเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจ สามารถแสดงออกถึงรสชาติใหม่ๆ ที่เหนือจินตนาการของตนเอง และนอกจากอาหารที่แนะนำในครั้งนี้แล้ว ตนเองยังคิดว่ามิโซะยังสามารถไปใช้ร่วมกับกับเมนูอื่นๆ ได้อีกด้วย อาทิ อาหารไทยแท้ดั้งเดิมหรือจะนำมาทำเป็นซอสทานกับผักต่างๆ นอกจากนี้ มิโซะยังเป็นอาหารหมักที่ดีต่อร่างกาย จึงเหมาะกับคนไทยเป็นอย่างยิ่ง"
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่นและไทย สามารถปรุงแต่งอาหารจานนี้ได้ด้วยตัวเองจากสูตรอาหารที่เชฟจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมทั้งยังสามารถหาซื้อวัตถุดิบเหล่านี้ได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านคุณ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://worldsgreatingredients.com/