วายแอลจี เผยราคาทองช่วงตรุษจีนยังพักฐาน ชี้เหมาะเป็นโอกาสซื้อหาเป็นของขวัญเทศกาลตรุษจีน-วาเลนไทน์ ล่าสุดออกทองแท่งไซส์เล็กบนการ์ดลวดลายมงคลต้อนรับเทศกาลตรุษจีน พร้อมคอลเล็กชั่นลายหัวใจต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรัก เหมาะมอบเป็นของขวัญล้ำค่าสามารถสะสมสร้างความมั่งคั่งและขายทำกำไรได้ในจังหวะราคาทองขาขึ้น ส่วนทิศทางราคาทองคำระยะสั้นมองยังพักฐานหลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,855-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสลงไป 1,800 ดออลาร์ต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนระยะยาวต้องการซื้อสะสมแนะเข้าซื้อที่ราคา 25,500 - 25,600 บาทต่อบาททองคำ คาดภาพใหญ่ทองคำยังเป็นบวกในระยะยาว หลังไบเดนเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นศก.ทางการคลัง ส่วนเฟดยันยังไม่ขึ้นดบ.และยังไม่ลด QE
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงตรุษจีนราคาทองคำจะไม่คึกคัก เพราะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ แต่การที่ราคายังคงอยู่ในระดับต่ำก็ทำให้สร้างความคึกคักในเทศกาลตรุษจีนทำให้ผู้คนสนใจซื้อหาเป็นของขวัญมอบให้คนพิเศษได้ง่ายขึ้น และเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีจำกัดมากขึ้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ทางวายแอลจี จึงได้เปิดตัวทองคำแท่ง 96.5% คอลเลคชั่นใหม่ ที่สร้างสรรค์ผลงานลายทองคำแท่งโดยม.ล.จิราธร จิรประวัติ (ครูโต) ศิลปินวาดภาพชื่อดัง น้ำหนัก 0.5 บาท และ 1 บาท พร้อมเปิดตัวการ์ดทองคำลวดลายใหม่ เช่น ลายปีฉลูทองบนการ์ดสีแดง ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน รวมถึงการ์ดลวดลายหัวใจเพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความรักในวันวาเลนไทน์ ขนาดเริ่มตั้งแต่ 0.5 กรัม ราคา 1,350 บาท และขนาด 1 กรัม ราคา 2,450 บาทซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะจากคนรุ่นใหม่เนื่องจากมีราคาไม่สูงสามารถซื้อได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงทรงคุณค่า เป็นของขวัญพิเศษที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต สามารถสะสมเป็นของขวัญให้ตัวเอง และสามารถขายทำกำไรในจังหวะที่ราคาทองปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดีราคาทองคำในช่วงนี้แม้จะเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาจากข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของโจ ไบเดน จำนวน1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และมีเงินไหลเข้าสินทรัพย์อื่นๆและทองคำ แต่ภาพรวมกองทุน ETF ยังขายทองคำออกมา จึงมองว่าระยะสั้น หากทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญ 1,855-1,875 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้ยังมีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลง ทดสอบด้านล่างบริเวณ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีในส่วนของภาพใหญ่ระยะยาวยังมองบวก เพราะแม้ล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะรายยงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดีขึ้น แต่โจ ไบเดน ยังมองว่าตลาดการจ้างงานที่จะกลับไปเต็มศักยภาพนั้นต้องใช้ระยะเวลาเกือบ 10 ปี ทองคำจึงเป็นทางเลือกระยะยาวในการกระจายความเสี่ยง แม้ว่าระยะสั้นยังต้องระมัดระวัง สำหรับราคาทองในประเทศนั้นหากราคาปรับลดลงมา ในระดับราคา 25,500-25,600 บาทต่อบาททองคำก็เป็นโอกาสเก็บสะสม ส่วนแนวต้านมองที่ 26,200-26,600 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อทางออนไลน์ผ่าน http://www.ylgprecious.co.th/ ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำแท่งสามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9888 และผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของบริษัท https://www.facebook.com/YLGGroup และหากสนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures ) สามารถติดต่อได้ทาง www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999