อพท. ตั้งเป้าปี 2564 สร้างชุมชนต้นแบบตามมาตรฐานเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก 6 แห่ง ใน 6 พื้นที่พิเศษ โดยชุมชนที่พัฒนาแล้วเร่งผลักดันเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป้าหมายอย่างน้อย 8 ชุมชน ด้านภารกิจยกระดับแหล่งท่องเที่ยวสู่สากล จับมือองค์กรยูเนสโกใช้เครื่องมือ VMAT บริหารจัดการนักท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานแรกของไทย พร้อมเล็งผลักดันเมืองเก่าสุโขทัย ขึ้นแท่นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุด 100 อันดับแรกของโลก หรือ TOP 100
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. จัดแถลงนโยบายและแผนการดำเนินงานประจำปี พ.ศ.2564 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จการดำเนินการในปีที่ผ่านมา แนวนโยบายและแผนการดำเนินงานพัฒนาการท่องเที่ยวในปัจจุบันและอนาคต ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) เพื่อสร้างความยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยวให้เกิดความสมดุลในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดการจ้างงานและยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่แห่งท้องถิ่นให้ดีขึ้น ซึ่งผู้อำนวยการ อพท. ได้กล่าวว่าในปี 2564 อพท. จะยังคงดำเนินการบริหารงานที่ยึดมั่นในปรัชญาการทำงานแบบ Co-creation คือ "ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับผลประโยชน์" ต่อไป และจะเพิ่มอีก 1 ร่วม คือร่วมเป็นเจ้าของ หรือ Co-Own เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความหวงแหนร่วมกัน โดยมีจุดเน้นการดำเนินงานดังนี้
จ.เลย พื้นที่ตำบลในเวียง จ.น่าน และพื้นที่เทศบาลตำบลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป้าหมายสำคัญในปี 2564 คือ อพท.
จะผลักดันให้พื้นที่ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย ให้เป็น Global Sustainable Destinations Top 100 หรือแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนที่ดีที่สุดในโลก 100 แห่ง
ขององค์การยูเนสโก
จับมือองค์กรยูเนสโก UNESCO ใช้เครื่องมือ VMAT บริหารจัดการนักท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว ได้เป็นหน่วยงานแรกของไทย
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. ได้กล่าวย้ำว่า อพท. มีแนวทางที่จะยกระดับภารกิจของหน่วยงานสู่สากลโดยร่วมมือกับองค์การยูเนสโก UNESCO เกี่ยวกับเครื่องมือการประเมินการจัดการนักท่องเที่ยว (Visitor Management Assessment Tool: VMAT) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานแห่งแรกของประเทศไทยเลยที่นำเครื่องมือนี้
มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกและพื้นที่พิเศษ อพท. และจะมีการต่อยอดไปถึงระดับอาเซียนในอนาคตและในปี 2564 นี้ สำนักงานใหญ่ขององค์การยูเนสโกที่กรุงปารีส ได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้เรียนรู้เครื่องมือตัวใหม่ที่องค์การยูเนสโกคิดค้นขึ้นเพื่อบริหารจัดการแหล่งมรดกโลกและแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน ซึ่ง อพท. ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมในระดับประเทศไปเมื่อเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ อพท. จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับอาเซียนในช่วงปลายปี พ.ศ.2564 และระดับเอเปค ในปี พ.ศ.2565 เพื่อให้ประเทศต่างๆ ได้เห็นถึงความสำเร็จของประเทศไทยในการเป็นต้นแบบด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั่นเอง
สำหรับโปรแกรม VMAT เป็นเครื่องในการสร้างแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวซึ่งมีประโยชน์ในการนำมาใช้ คือ เพิ่มพูนความเข้าใจและสามารถติดตามผลและเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของการจัดการนักท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวได้ดีขึ้น สร้างกิจกรรมที่สมเหตุสมผล ปรับปรุงการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว เสริมสร้างบุคคลและสถาบัน และต่อยอดความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆ VMAT จัดเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์การพัฒนาในอนาคตเนื่องจากเป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานในแต่ละพื้นที่ และให้ความสำคัญกับระบบการจัดการนักท่องเที่ยวที่มีบริบทสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ดังนั้นเพื่อประโยชน์ต่อการอนุรักษ์คุณค่าของแหล่งมรดกและนำไปสู่การบูรณาการเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนได้ โดย อพท.จะนำเข้าข้อมูลภายในพื้นที่เพื่อประเมินประสิทธิภาพภายใต้เป้าหมาย 4 ด้านที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ การบริหารและการจัดการนักท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนทางสังคม และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ จากนั้นจึงประเมินค่าเป็นคะแนนเพื่อสร้างฐานข้อมูลและพัฒนากลยุทธในการวางแผนปฏิบัติการและกระบวนการทำงานของ อพท. ต่อไป