NCAP ประกาศผลงานปี 63 กำไรสุดสตรอง โตเกือบ 60% อยู่ที่เกือบ 202 ล้านบาท รายได้โต 12.52% อยู่ที่ 1,141.40 ล้านบาท จากการบริหารพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปักธงปี 64 ขยายฐานลูกค้าเก่าและใหม่ทั่วประเทศ เตรียมนำแพลตฟอร์มใหม่มาใช้สนับสนุนการดำเนินงาน พร้อมวางเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 15%
นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (NCAP) หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดประจำปี 2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 201.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 59.83 เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 126.24 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,141.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.03 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 12.52 เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 1,014.37 ล้านบาท โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าติดตามทวงถามหนี้และรายได้หนี้สูญได้รับคืน อันเป็นผลมาจากการปรับปรุงกระบวนการติดตามหนี้และทวงถามหนี้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 เป็นต้นมา แม้จำนวนสัญญาเช่าซื้อใหม่ลดลงจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่บริษัทสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปี 2563 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 17.68 และมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 3,814 ล้านบาท มีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ในระดับต่ำต่อเนื่องที่ประมาณร้อยละ 1.69 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบเคียงในอุตสาหกรรม
เป้าหมายในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 15% พร้อมขยายการเติบโตในธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ รับภาพรวมตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับ กำลังซื้อในช่วงเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้รถจักรยานยนต์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้รถในชีวิตประจำวัน และใช้ในการประกอบอาชีพ ด้วยกลยุทธ์ การขยายฐานลูกค้าทั้งจากตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่เป็นพันธมิตรในปัจจุบันและเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายใหม่เพื่อให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ได้มากขึ้น โดยการนำ Mobile Application และ พัฒนา ERP มารองรับการขยายสินเชื่อให้มีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
"ผลงานปี 2563 ที่ประกาศออกมา กำไรของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน ปัจจัยสำคัญมาจากการบริหารจัดการภายใน และกระบวนการติดตามหนี้สูญที่มีประสิทธิภาพ ส่วนรายได้เติบโตขึ้นสวนทางภาพรวมอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง โดยยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ใหม่ (ป้ายแดง) ในปี 2563 มีการปรับตัวลดลงร้อยละ 11.6 มาอยู่ที่ 1.52 ล้านคัน จากปี 2562 อยู่ที่ 1.72 ล้านคัน เนื่องจากได้รับผลกระทบในสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 และทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยเราเห็นสัญญาณกำลังซื้อรถจักรยานยนต์ฟื้นตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงทำให้คนมองหารถจักรยานยนต์เพื่อใช้ในการเดินทาง มีการย้ายที่อยู่อาศัย เปลี่ยนอาชีพ หรือการใช้รถจักรยานยนต์ในธุรกิจขนส่งและเดลิเวอรี่มากขึ้น รวมไปถึง นโยบายภาครัฐที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจว่า ปี 2564 ตลาดยังขยายตัว เป็นโอกาสในการขยายพอร์ตของ NCAP มากขึ้น โดยจะเน้นปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพ อย่างระมัดระวัง" นายสมชัย กล่าว