บลจ.กสิกรไทย ส่ง 2 กองทุน RMF น้องใหม่ 'กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2035 เพื่อการเลี้ยงชีพ (K2035RMF)' และ 'กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2040 เพื่อการเลี้ยงชีพ (K2040RMF)' ชูจุดเด่นถือครองและลงทุนกองเดียวต่อเนื่องได้ทุกปีจนเกษียณ ผ่านนโยบายกระจายลงทุนในกองทุนเพื่อวัยเกษียณที่ดีที่สุดในโลกแบบ Fund of fundsพร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนให้อัตโนมัติตามช่วงอายุจนถึงวัยเกษียณ เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ - 1 มี.ค. 64
นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วติดอันดับ 10 ของโลก โดยพบว่าคนไทยมีเงินออมไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ เนื่องจาก คนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ รวมถึงยังมีข้อจำกัดจากการลงทุนที่เน้นลงทุนเฉพาะในประเทศ (Home Bias) ทำให้พลาดโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนมาเริ่มต้นออกแบบชีวิตวัยเกษียณกับ 2 กองทุน RMF น้องใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2035 เพื่อการเลี้ยงชีพ (K2035RMF) และ กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2040 เพื่อการเลี้ยงชีพ (K2040RMF) โดยมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ - 1 มีนาคม 2564
นายสุรเดชกล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของกองทุน K2035RMF และ K2040RMF อยู่ที่ 1) มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า จากการลงทุนในกองทุนต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป (Fund of funds) ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่น และกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 2) มีการปรับสัดส่วนสินทรัพย์ให้อัตโนมัติตามช่วงอายุ (Glide Path) โดยจะเน้นลงทุนหุ้นเพื่อให้เงินเติบโตในช่วงแรก และเมื่อขยับเข้าใกล้วันเกษียณอายุจะเน้นปกป้องเงินด้วยการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และ 3) บริหารจัดการด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก บลจ.กสิกรไทย ร่วมบริหารกับ Capital Group ซึ่งเป็นบลจ.ชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารกองทุน Target Date ติดอันดับ Top 5 (ที่มา: Morningstar ณ 31 ธ.ค. 63) และมีผลการดำเนินงานติด Percentile อันดับ 1 ทั้งในช่วง 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี (ที่มา: Capital Group ณ 31 ธ.ค. 63)
"สำหรับการพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุน K2035 หรือ K2040 แนะนำให้ผู้ลงทุนที่มีแผนเกษียณอายุประมาณปี ค.ศ. 2035 - 2040 (พ.ศ. 2578 - 2583) พิจารณาจากปีที่ต้องการเกษียณเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ผู้ลงทุนที่มีอายุ 40 ปี และต้องการเกษียณตอนอายุ 55 ปี (ค.ศ. 2035 / พ.ศ. 2578) ซึ่งมีระยะเวลาเตรียมเกษียณ 15 ปี ควรเลือกกองทุน K2035RMF แต่หากต้องการเกษียณตอนอายุ 60 ปี (ค.ศ. 2040 / พ.ศ. 2583) ซึ่งมีระยะเวลาเตรียมเกษียณ 20 ปี ก็ควรเลือกกองทุน K2040RMF ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทุนเลือกลงทุนในกองทุน K2035 หรือ K2040 แล้ว ก็สามารถลงทุนในกองทุนเดิมได้ทุกปีจนกว่าจะเกษียณ เพราะ กองทุนมีการปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงให้อัตโนมัติอยู่แล้ว" นายสุรเดชกล่าว
นายสุรเดชกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K2035RMF และ K2040RMF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ ที่ไม่มีเวลาปรับสัดส่วนการลงทุนด้วยตนเอง สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตให้มีการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนใน RMF ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888