เส้นทางของร้านมัลติแบรนด์รวมผลงานศิลปะน่ารัก ๆ สติกเกอร์ของคนไทย อย่าง 'I Found Something Good' ไม่ธรรมดา ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดย 4 สาวเพื่อนซี้ผู้ร่วมก่อตั้ง จับมือกันพลิกหาโอกาสใหม่ ขยายสาขาจากสยามสแควร์ ย่านวัยรุ่น สู่ 'เมกาบางนา' ศูนย์การค้าใหญ่โซนกรุงเทพตะวันออกที่มีทราฟฟิกสูง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น ครอบคลุมได้ทุกเพศทุกวัย
ร้าน I Found Something Good เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 จากเพื่อนสนิท 4 คนที่มีความชื่นชอบในศิลปะเหมือนกัน คือ เบลล์-อริยา สภานุรัตนา, นัตโตะ-ณัฐวดี กาญจนโกมล, โรล-นดี จรรยาประเสริฐ และ ร็อค-นดา จรรยาประเสริฐ มองเห็นโอกาสว่าร้านมัลติแบรนด์รวบรวมผลงาน illustration ของคนไทยยังไม่มีในตลาดมากนัก ส่วนใหญ่จะขายกันเองตามโซเชียลมีเดีย จึงตัดสินใจเปิดร้านนี้กันขึ้นมา หลังเรียนจบกันได้ไม่นาน ด้วยเงินลงทุนเปิดสาขาแรกราว 4-5 แสนบาท และได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าอย่างมาก มีลูกค้ารอคิวซื้อยาวเหยียด โดยเริ่ม
แรกกลุ่มลูกค้าหลักเป็นนักเรียนมัธยม จากนั้นขยับมากลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ใหญ่วัยทำงานที่เริ่มเข้ามามากขึ้น
ในช่วงแรก I Found Something Good เลือกทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่าง 'ทวิตเตอร์' เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และได้แรงสนับสนุนจากศิลปิน-นักวาดที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว ช่วยกระจายข่าว สร้างเป็น Community ที่รวมคนที่ชอบเหมือนกันขึ้นมา
I Found Something Good เปิดให้บริการมากแล้วราว 2 ปี เป็นมัลติแบรนด์รวมผลงานสติกเกอร์ของคนไทยรายแรก ๆ โดยมีสินค้าในร้านกว่า 200 แบรนด์ จำนวนมากกว่า 1 หมื่นชิ้น มีศิลปินที่เป็นพาร์ทเนอร์ราว 200 คนทั่วประเทศ และยังมีแผนขยายความร่วมมือไปเรื่อย ๆ
หลังเริ่มทำธุรกิจมาไม่นาน I Found Something Good ต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหญ่กับสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องปิดร้านชั่วคราวตามมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์มา 'ขายออนไลน์' เพื่อพยุงรายได้ โดยมีการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่มารองรับวิกฤตนี้อย่างทันท่วงที
สำหรับช่องทางการขายในปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากหน้าร้าน เพราะคนชอบเห็นของจริงมากกว่าสั่งออนไลน์ โดยสินค้าที่ขายดีที่สุด ได้แก่ สติกเกอร์, โปสการ์ด,พวงกุญแจ และเทียนหอม โดยจุดเด่นของร้าน คือการเป็น 'Local Brand' รวมงานศิลปะของคนไทย ตามมาด้วย 'ราคาจับต้องได้' และ 'บรรยากาศร้าน' ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นพื้นที่ของตัวเอง
โดยเหตุผลที่เลือกเปิดสาขาที่ 2 ที่ เมกาบางนา (โซนสีเขียว ชั้น 1 ใกล้บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า) เจ้าของร้าน I found something good มองว่า เป็นศูนย์การค้า ที่มีทราฟฟิกสูง มีกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเจเนเรชั่น ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ มาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน และเป็นศูนย์ฯ ที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง จึงมองเหมาะกับการขยายของร้านและการขยายฐานลูกค้า
เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากให้ผลักดันวงการสติกเกอร์ไทย ทั้ง 4 ผู้ก่อตั้ง I Found Something Good เห็นไปในทางเดียวกันว่า ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนมุมมอง 'การให้คุณค่างานศิลปะ' เพราะว่าจะออกมาเป็นผลงานสวย ๆ ที่เห็นกันนั้น มีตุนทุนทางทักษะและการฝึกฝนมากกว่าราคากระดาษ รวมไปถึงปัญหาซัพพลายเออร์ ที่ยังมีข้อจำกัดเรื่องความหลากหลายของวัตถุดิบ จึงเห็นว่าหากสังคมให้ความสำคัญกับงานศิลปะมากขึ้น ผู้ผลิตก็จะหันมาพัฒนาสินค้าเพื่อสนองความต้องการตลาดตามไปด้วย
"สติกเกอร์ ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่อยากให้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนนำมาปรับใช้ ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น" ปิดท้ายด้วยการคำแนะนำถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่อยากจะลองทำธุรกิจว่า ให้เริ่มสังเกตจากสิ่งใกล้ตัวที่ตัวเองชื่นชอบ เพราะการทำธุรกิจต้องทุ่มเทและทำงานตลอดเวลา ขณะเดียวกันการเลือกพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจได้มาก วางเป้าหมายให้ชัดเจน ศึกษาการทำธุรกิจให้รอบคอบ และลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง