บมจ. ไทรทัน โฮลดิ้ง หรือ TRITN ประกาศผลประกอบการปี 2563 รายได้รวม 1,410 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% และกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มงานโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันและงานวิศวกรรมใต้ดิน ที่เติบโตแข็งแกร่งและเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับระบบเดินรถไฟ และ ปีนี้เตรียมรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าอัครวัฒน์ที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยตั้งเป้ารายได้ปีละ 100 ล้านบาท
นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN ผู้ประกอบธุรกิจการลงทุนในบริษัทอื่นเป็นหลัก (Holding Company) โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจด้านวิศวกรรมเฉพาะทาง( Specialized Engineering) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2563 บริษัทฯมีอัตราส่วนในการทำกำไรสูงขึ้นจากความสามารถในการหารายได้เพิ่มสูงขึ้นและมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรายได้รวม 1,409.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.5% และกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.5% จากกลุ่มงานโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันและงานวิศวกรรมใต้ดิน ที่เติบโตแข็งแกร่งและเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับระบบเดินรถไฟระหว่างปี
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจก่อสร้างจำนวน 1,333.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 183.20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.93% โดยทำอัตรากำไรขั้นต้นได้เพิ่มขึ้นถึง 183.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากผลประกอบการของกลุ่มงานก่อสร้างวิศวกรรมใต้ดิน โครงการก่อสร้างสถานีรถไฟและสะพานข้ามทางรถไฟ และข้ามทางแยกและกลุ่มงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับระบบเดินรถไฟซึ่งรับรู้รายได้ไตรมาส 4/63 แล้ว 35.07 ล้านบาท หลังจากที่ได้เข้าลงทุนในบริษัท ทรานไทย เรลเวย์ จำกัด เมื่อกลางปีที่แล้ว โดยสิ้นปีที่ผ่านมางานก่อสร้างมีความคืบหน้ารวม 65.34%
นอกจากนี้ ยังทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานจาก บริษัท ไทรทัน พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TRITN เข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าหนองรี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าโรงที่ 1 ของกลุ่มบริษัท ขนาด 3 เมกกะวัตต์ โดยมียอดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สำหรับปี 63 แล้วประมาณ 36 ล้านบาท
"เราตั้งเป้ารายได้จากโรงไฟฟ้าอัครวัฒน์ (โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ)ไว้ปีละประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกปี 64 โรงไฟฟ้าอัครวัฒน์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ของกลุ่มบริษัท ขนาด 4.9 เมกกะวัตต์ ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว และหลังจากที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลง หลายโครงการใหญ่ของบริษัทก็ได้กลับมาเริ่มดำเนินงานอย่างเต็มกำลัง ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเราเริ่มงานก่อสร้าง ทั้งงานท่อใต้ดิน งานโยธาโครงสร้าง และงานรถไฟ จึงมั่นใจว่าปีนี้ TRITN จะมีแนวโน้มเติบโตให้เห็นได้อย่างต่อเนื่อง" นางสาวหลุยส์ กล่าว