เจนเนอราลี่กรุ๊ป ประกาศแผนการลงทุนในโครงการ เฟนิเช่ 190 (Fenice 190) มูลค่า 128,000 ล้านบาท (3,500 ล้านยูโร) เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid -19 โดยจะเริ่มต้นในอิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี และยังมีเป้าหมายครอบคลุมประเทศในยุโรปทั้งหมดที่ทางเจนเนอราลี่ดำเนินการตลอดห้าปีของแผนในวาระครบรอบ 190 ปี โดยฉลองการครบรอบครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2021
เฟนิเช่ 190 คือแผนช่วยเหลือที่ได้เปิดตัวในปี ค.ศ. 2020 โดยเป็นการลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs และภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real Economy) และได้บรรลุเป้าหมายการลงทุนที่กำหนดไว้ 1 พันล้านยูโร หรือ 36,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจนเนอราลี่ให้คำมั่นที่จะเพิ่มเม็ดเงินอีกจำนวน 18,000 ล้านบาท(500 ล้านยูโร) ต่อปีตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านกองทุนการลงทุนระหว่างประเทศที่เน้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและการในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ธุรกิจ SMEs ที่อยู่อาศัยสีเขียว (green housing) ตลอดจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการดูแลสุขภาพและการศึกษา
มร.ฟิลลิป ดอนเนท (Philippe Donnet) ประธานกรรมการบริหารของกลุ่ม เจนเนอราลี่ กล่าวว่า เจนเนอราลี่ เป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่มีประวัติอันยาวนาน จากประสบการณ์ที่เจนเนอราลี่ได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์ตลอดจนสามารถเผชิญกับความท้าทายต่างๆ มาได้จนถึงปัจจุบัน โดยมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับชุมชนที่กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินการอยู่ทั้งในฐานะผู้รับประกันภัยและผู้สร้างสรรค์สังคม การฉลองครอบรอบ 190 ปีครั้งนี้ เป็นปีที่เราต้องทั้งฝ่าฟันวิกฤตโลกครั้งร้ายแรงที่สุดในยุคหลังสงครามโลกและยังต้องวางรากฐานสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกไปด้วย สำหรับการริเริ่มแผน เฟนิเช่ 190 เจนเนอราลี่ต้องการเป็นผู้นำในการมอบมรดกอันเป็นรูปธรรมในอนาคต โดยการให้การสนับสนุนต่อภาควัตกรรม ความยั่งยืน และกลยุทธ์เพื่อการเริ่มต้นใหม่ของเศรษฐกิจยุโรป ในขณะเดียวกันก็ยังรวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตครั้งนี้ด้วย
แผนเฟนิเช่ 190 จะดำเนินการผ่านมัลติ-บูทีคแพลตฟอร์ม (multi-boutique platform) ของเจนเนอราลี่ อินเวสท์เมนทส์(Generali Investments)โดยเปิดสำหรับกองทุนบุคคลที่สาม นักลงทุนสถาบัน ตลอดจนบริษัทภายใต้กลุ่มเจนเนอราลี่ สามารถมีส่วนร่วมในการจัดสรรการลงทุนตามวัตถุประสงค์ของตนเอง ทั้งนี้ การคัดเลือกแผนลงทุนต่างๆ ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการการลงทุนของหน่วยธุรกิจการบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Asset & Wealth Management Business Unit) ปัจจุบันได้มีการจัดสรรการลงทุนไปแล้วกับ 10 กองทุน คิดเป็นเงินลงทุนจำนวน 1.05 พันล้านยูโร หรือเกือบ 40,000 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมในหลากหลายด้าน อาทิ การสนับสนุน SMEs ในยุโรป ตลอดจนถึงที่อยู่อาศัยสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัล สุขภาพ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
มร. กาเบรียล กาลาเตรี ดิ เจโนลา (Gabriele Galateri di Genola) ประธานของกลุ่มบริษัท Assicurazioni Generali กล่าวว่า การฉลองครบรอบ 190 ปีของเจนเนอราลี่ท่ามกลางสภาพการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปัจจุบัน กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่มีความตั้งใจเป็นพิเศษที่จะร่วมสร้างวิสัยทัศน์อันยั่งยืนเพื่ออนาคตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน โดยในปี ค.ศ. 2021 นี้ เป็นปีที่เราคาดหวังถึงการเริ่มฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ เราจึงเฉลิมฉลองการครบครอบของเราผ่านโครงการต่างๆ ที่ผสมผสานทั้งอดีตและอนาคต เพื่อส่งมอบโอกาสสำหรับการเติบโตและการแบ่งปัน โดยเจนเนอราลี่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสู่สังคมที่ยั่งยืนมากขึ้นด้วยลงทุนผ่านแผนเฟนิเช่ 190 และในขณะเดียวกัน เราก็ตั้งใจที่จะสร้างมรดกทางทักษะและประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของบริษัทเพื่อส่งเสริมความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป
ทั้งนี้ เจนเนอราลี่ ฉลองครบรอบปีที่ 190 ด้วยโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นตลอดปี ค.ศ.2021 โดยในเดือนธันวาคมนี้ การบูรณะและปรับปรุงอาคาร Procuratie Vecchie ในเมืองเวนิส ที่ดูแลโดยสถาปนิก เดวิท ชิปเปอร์ฟิลด์ (David Chipperfield) คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรกหลังในรอบ 500 ปี ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางในระดับโลกของมูลนิธิ เดอะ ฮิวแมน เซฟตี้ เนท (The Human Safety Net) ด้วย
มูลนิธิ ดิ ฮิวแมน เซฟตี้ เนท (The Human Safety Net) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2017 มีพันธกิจในการปลดล็อคศักยภาพของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวและชุมชนได้ โดยมูลนิธิฯ มีโครงการที่ให้การสนับสนุนครอบครัวที่มีเด็กอายุ 0-6 ปี รวมถึงส่งเสริมการปรับตัวของผู้ลี้ภัยเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมผ่านการทำงานและการประกอบกิจการ ปัจจุบัน The Human Safety Net มีการดำเนินงานใน 23 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย และมีการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเครือข่ายขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรกว่า 50 องค์กร ถือเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมทางสังคมซึ่งจะจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ในเมืองเวนิส โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมที่ต้องการการแก้ไขเร่งด่วน โดยการดำเนินงานทั้งหมดนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเจนเนอราลี่ในการเปลี่ยนเมืองเวนิสให้เป็นเมืองหลวงแห่งความยั่งยืน
สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีการเปิดตัวอิดิชั่นแรกของ EnterPRIZE ที่จัดทำขึ้นเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในยุโรป โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนให้พวกเขาเหล่านี้ได้นำรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินงาน โดยเป็นการนำเสนอมุมมองให้ผู้ที่กำลังประกอบธุรกิจรวมถึงกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ จะมีการเปิดใช้แพลตฟอร์มทางออนไลน์เพื่อแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด โดยสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาและข้อมูลเกี่ยวกับความยั่งยืนได้ ขณะเดียวกันจะมีการนำเสนอสมุดปกขาว (White Paper) ด้านความยั่งยืนฉบับแรกที่จัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัยบอคโคนี่ (Bocconi University) ที่มุ่งเน้นถึงผลของการนำหลักการด้านความยั่งยืนมาใช้ในธุรกิจ SMEs ในยุโรป
ด้านเจนเนอราลี่ไทยแลนด์ นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า การผลกระทบของภาคเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลกระทบมาถึงยังประเทศไทยด้วย แม้ว่าประเทศเราจะมีการบริหารจัดการผลกระทบจากโควิดได้เป็นอย่างดี แต่ภาคธุรกิจโดยรวมก็ยังคงต้องเน้นย้ำเพื่อฟื้นฟูสำหรับประเทศไทยด้วย ในฐานะภาคธุรกิจประกัน แน่นอนว่า เรายังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต การเฉลิมฉลอง 190 ปีนี้ เป็นมากกว่านั้น ในวาระครบนี้เป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่าเราดูแลลูกค้าของเราทั่วโลกมากว่า 190 ปี และชาวเจนเนอราลี่ทั่วโลกตั้งใจที่จะสร้างอนาคตอย่างยั่งยืนเพื่อคุณ ผู้เป็นลูกค้าคนสำคัญ เจนเนอราลี่เป็นแบรนด์ประกันระดับโลกที่มีจุดแข็งคือความมั่นคงและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกให้เราพร้อมดูแลลูกค้า และมีส่วนสนับสนุนสังคมเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์การประกันภัยมาตรฐานระดับโลกตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ศตวรรษที่ผ่านมา ทำให้เราพร้อมเดินทางก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 3 และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมเพื่อประชาคมโลกของเรา" นายบัณฑิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการฉลองครบรอบ 190 ปี ยังรวมถึงที่เมืองทรีเอสเต้ ซึ่งเจนเนอราลี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 1831 และกิจกรรมร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น โดยพื้นที่ภายในอาคาร Palazzo Berlam ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิก มาริโอ เบลลินี่ Mario Bellini จะเป็นที่ตั้งของหอจดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์ของบริษัท และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมด้วยรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟที่สร้างสรรค์ นอกจากนี้ จะมีการเปิดหลักสูตรและการเรียนการสอนที่ กรุ๊ป อะคาเดมี (Group Academy) ศูนย์ฝึกอบรมระดับโลกแห่งใหม่ซึ่งจะเปิดตัวที่ Palazzo Berlam เช่นกันและเพื่อเป็นการดำเนินรอยตามธรรมเนียมของเจนเนอราลี่ ในการนำเสนอประเด็นร่วมสมัยผ่านการสื่อสารด้วยโปสเตอร์โฆษณา เจนเนอราลี่จะมอบโจทย์ให้ศิลปินชาวอิตาลีและศิลปินต่างชาติห้าคน ตีความแนวคิดสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ในห้าด้าน ภายใต้โครงการ "This is Tomorrow" นำเสนอผ่านการสร้างสรรค์โปสเตอร์ที่สื่อถึงความเป็นจริงในรูปแบบใหม่
นอกจากนี้พนักงานกว่า 70,000 คนของกลุ่มบริษัทฯ จะมีบทบาทสำคัญในการร่วมฉลองก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ 190 ปี โดยเจนเนอราลี่จะเชิญชวนให้พนักงานทั่วโลกร่วมบอกเล่าเรื่องราวของเจนเนอราลี่จากมุมมองของแต่ละคน โดยเป็นการนำประสบการณ์ส่วนตัวผนวกกับมรดกอันล้ำค่าของบริษัทฯ บอกเล่าผ่านแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ทั้งนี้ การแข่งขันจะคัดเลือกเรื่องราวที่ดีที่สุดจากพนักงาน 190 คน ที่เรียกว่า ไลอ้อนส์ (Lions) ซึ่งจะได้เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองครบรอบ 190 ปีของเจนเนอราลี่ด้วย
ในเว็บไซต์เจนเนอราลี่ generali.com จะมีส่วนที่สร้างขึ้นสำหรับโอกาสการครบรอบครั้งนี้เป็นพิเศษ โดยจะมีการนำเสนอแผนและกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนเนื้อหาจากกองบรรณาธิการที่เกี่ยวข้องกับประวัติของเจนเนอราลี่ด้วย
เกี่ยวกับเจนเนอราลี่
เจนเนอราลี่ (Generali) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1831 เจนเนอราลี่มีการดำเนินงานใน 50 ประเทศทั่วโลก และมีรายได้จากเบี้ยประกันภัยรวมกว่า 69.7 พันล้านยูโรในปี ค.ศ.2019 ด้วยจำนวนพนักงานเกือบ 72,000 คนที่ให้บริการลูกค้า 61 ล้านคน เจนเนอราลี่ถือเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรปและยังมีการเติบโตทั้งในเอเชียและละตินอเมริกา ทั้งนี้ พันธกิจอันมุ่งสู่ความยั่งยืนนั้นเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนกลยุทธ์ของเจนเนอราลี่ โดยมีแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นในการเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า (life-time partner) ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและส่วนบุคคลผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ไม่มีใครเทียบได้