บอร์ด PIMO-ไพโม่ ไฟเขียว!! อนุมัติเพิ่มทุน 236.13 ล้านหุ้น รองรับวอร์แรนต์ไม่เกิน 176.13 ล้านหน่วย แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิม 7:2 ขายพีพี ด้านหัวเรือใหญ่ "วสันต์ อิทธิโรจนกุล" เผยช่วยรักษาสภาพคล่อง เสริมโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งและมั่นคง พร้อมเดินหน้าลงทุนในธุรกิจใหม่และขยายธุรกิจเดิมเพื่อสร้างรายได้-ผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นในอนาคต
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO-ไพโม่ ประกอบธุรกิจหลักได้แก่ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (PIMO-W2) จำนวนไม่เกิน 176,133,046 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 7 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 2 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า
การออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับเงินประมาณ 308.23 ล้านบาท ถ้าผู้ถือหุ้นใช้สิทธิครบตามจำนวน ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ส่งผลให้มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้มีความพร้อมทางด้านเงินทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจเดิมและการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ส่งผลให้รายได้และผลกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในอนาคตอีกด้วย
"บอร์ดยังอนุมัติให้เพิ่มทุน อีกจำนวน 59.03 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 236.13 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ จำนวนไม่เกิน 176.133 ล้านหุ้น และเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด แบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น" นายวสันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการยังได้อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียน โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย 7,534,339 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เป็นหุ้นส่วนที่เหลือจากการจัดสรร เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (PIMO-W1) ซึ่งจะครบกำหนดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิแล้ว จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 156,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 154,116,415.25 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 616,465,661 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท