นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) ("PACO") กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้การตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทและศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ โดยหุ้นไอพีโอของ PACO ได้จำหน่ายให้กับนักลงทุน กลุ่มผู้มีอุปการคุณของบริษัท และกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ
บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์หลักจะนำเงินจากการเพิ่มทุน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการจำนวน 108 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการอนาคต 2 โครงการ จำนวน 40 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.)โครงการก่อสร้างคลังสินค้าและย้ายจุดกระจายสินค้าในประเทศจำนวน 20 ล้านบาท และ 2.)จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าและขยายตลาดในประเทศมาเลเซียจำนวน 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินจำนวน 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย หุ้นไอพีโอ ของ บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO เปิดเผยว่า "หุ้นไอพีโอ PACO ได้รับความสนใจในการจองซื้ออย่างสูงจากกลุ่มนักลงทุน เนื่องจาก บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านการเป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ระดับนานาชาติ และ มีรายได้ที่มีความมั่นคงสูง ไม่แปรผันตามสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นไอพีโอ จำนวน 260 ล้านหุ้น หรือ 26% ของทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ที่ราคา 1.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนประมาณ 364 ล้านบาท โดยภายหลังการระดมทุนครั้งนี้ กลุ่มครอบครัวคุณสมชาย เลิศขจรกิตติจะถือหุ้นในสัดส่วน 44.4% กลุ่มครอบครัวคุณสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติจะถือในสัดส่วน 29.6% และเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 26% และมีกำหนดการจะเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 22 มีนาคม 2564 นี้
PACO เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM หรือ Aftermarket) ระดับนานาชาติ ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอะไหล่รถยนต์ทั่วโลก และ PACO มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิระดับสูง โดยในปี 2563 PACO มีกำไรสุทธิเท่ากับ 76.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 46.19 ล้านบาท คิดเป็น 150.63% เมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจาก PACO ได้นำเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาติดตั้งและดำเนินการได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดการปรับกระบวนการทำงานในการผลิตเพื่อควบคุมการใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนค่าแรงและค่าล่วงเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ หุ้นไอพีโอของ PACO ที่ 1.40 บาท ต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย โดยกลุ่มนักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง และมีจุดแข็งด้านการผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับสูง มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รองรับรถยนต์และรถบรรทุกทุกประเภท โดยการระดมทุนครั้งนี้ นอกจากเพื่อคืนหนี้สถาบันการเงินแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการขยายกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร และจำหน่ายสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย โดยบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น ครอบคลุมทั้งรถยนต์ทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน โดยมีสินค้ารวมมากถึง 2,600 รุ่นซึ่งครอบคลุมเกือบทุกรุ่นของคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นทั่วโลก โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015