IMH - รพ.ประชาพัฒน์ เปิดศูนย์แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ดึง ศัลยแพทย์ตกแต่งมือหนึ่งทางด้านทรวงอก เสริมทัพ มุ่งสู่การเป็น HUB ศัลยกรรมย่านฝั่งธนฯ - ปั้มรายได้เพิ่ม 50 ล้านบาทต่อปี
บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (IMH) สยายปีกต่อยอดธุรกิจ สบช่องเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery and Reconstruction Center) โรงพยาบาลประชาพัฒน์ ดึง "ผศ.(พิเศษ)พ.ท.นพ. ชาติชาย พฤกษาพงษ์" ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญมือหนึ่งทางด้านทรวงอก เข้าเสริมทัพ ตั้งเป้าเป็น HUB ศัลยกรรม ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งธนบุรี มั่นใจรับรู้รายได้เพิ่มอีกปีละ 50 ล้านบาท
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH และประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลประชาพัฒน์ เปิดเผยว่า IMH ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง กับ ผศ.(พิเศษ) พ.ท.นพ. ชาติชาย พฤกษาพงษ์ ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญทางด้านทรวงอก ซึ่งการผนึกกำลังความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้เพื่อเปิดศูนย์แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลประชาพัฒน์ (Plastic Surgery and Reconstruction Center - Prachapat Hospital) โดยชูศักยภาพการมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะมือหนึ่ง ที่เน้นมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการเป็นสำคัญ โดยกลยุทธ์ในการให้บริการช่วงแรก IMH จะเน้นทำตลาดบนฐานลูกค้าของ IMH และ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ ก่อน เนื่องจากโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง มีฐานลูกค้ารวมกัน มากกว่า 1.5 ล้านราย
"ผศ.(พิเศษ) พ.ท.นพ. ชาติชาย พฤกษาพงษ์ ถือเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญทางด้านทรวงอกที่มีชื่อดัง และมีผลงานในการทำศัลยกรรมมาแล้วมากกว่า 10,000 เคส โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มดารารีวิว ระดับต้นๆ ของวงการ ดังนั้นเชื่อว่าการที่มีศัลยแพทย์มือหนึ่งระดับต้นๆของวงการมาเปิดศูนย์ให้บริการที่รพ.ประชาพัฒน์ จะสร้างความคึกคักให้กับกลุ่มที่ต้องการใช้บริการย่านฝั่งธนฯ"
สำหรับการเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งครั้งนี้ เป็นส่วนนึ่งของแผน Synergy & Transform ของโรงพยาบาลประชาพัฒน์ โดยจะใช้ Synergy จาก IMH ที่มีฐานลูกค้าตรวจสุขภาพขนาดใหญ่ มาผนวกเข้ากับ Transform ของโรงพยาบาลประชาพัฒน์ เพื่อเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาลสู่การเป็น HUB ด้านโรงพยาบาลให้บริการด้านศัลยกรรม ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งธนบุรี และคาดว่าศูนย์การแพทย์ฯดังกล่าวจะสร้างรายได้เพิ่มให้กับ IMH เข้ามาเฉลี่ยปีละ 50 ล้านบาทได้อย่างมีนัยสำคัญ
ดร.สิทธิวัตน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับแนวโน้มการเติบโตของการให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงการพิจารณาจากตัวเลขของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery : ISAPS)ที่ระบุว่า อุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งในประเทศไทยในปี 2563 ก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีมูลค่าตลาดสูงถึง 45,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นทุกๆปี ซึ่งศัลยกรรมที่คนไทยนิยมทำมากที่สุดได้แก่ เสริมจมูก, ตาสองชั้น, เสริมหน้าอก, ดูดไขมัน เป็นต้น ดังนั้นเชื่อว่าการที่IMH และ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ สยายปีกเพิ่มการให้บริการด้านศัลยกรรมฯจึงเป็นการวางแผนต่อยอดธุรกิจที่เดินมาถูกทาง